
Ledger เปิดตัว Ledger Flex, Stax และ Nano Gen5 พร้อมเทคโนโลยีใหม่เพื่อความปลอดภัยในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล
ท่ามกลางการเติบโตของตลาดคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่า “ความปลอดภัย” ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้คริปโตยังไม่สามารถเข้าสู่กระแสหลักได้อย่างเต็มตัว โดย Ledger ผู้นำด้านฮาร์ดแวร์วอลเล็ตและโซลูชันความปลอดภัย ระบุว่าผู้ใช้งานจำนวนมากยังคงเสี่ยงต่อการถูกแฮก การจัดการคีย์ส่วนตัวผิดพลาด และการสูญเสียสินทรัพย์อย่างถาวร
Jean-François Rochet รองประธานบริหารฝ่าย Consumer Services ของ Ledger เปิดเผยว่า แม้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลจะเติบโตต่อเนื่องทั้งด้านมูลค่าและการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนไปใช้จริงในภาคธุรกิจ แต่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยกลับเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะ “คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวก ไม่ใช่เพื่อปกป้องสินทรัพย์มูลค่าสูง” เมื่อผู้ใช้จัดเก็บคีย์ส่วนตัวไว้ในอุปกรณ์ทั่วไป โอกาสถูกโจมตีทางไซเบอร์หรือทำข้อมูลสูญหายจึงยังคงเป็นปัญหาใหญ่
ด้วยเหตุนี้ Ledger จึงผลักดันการสร้างโครงสร้างพื้นฐานความปลอดภัยที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมุ่งให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถถือครองสินทรัพย์ได้อย่างมั่นใจ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
Ledger ได้เปิดตัวอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสรุ่นใหม่ Ledger Flex และ Ledger Stax ซึ่งได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมระบบความปลอดภัยระดับสูงสุดรองรับสินทรัพย์หลากหลายประเภท นับเป็นความพยายามสำคัญในการทำให้มาตรฐานความปลอดภัยระดับสถาบันทดลองใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
ขณะเดียวกัน Ledger ยังเปิดตัวรุ่นล่าสุด Ledger Nano Gen5 ภายในงาน Ledger Op3n ที่ปารีส โดยรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องทั้งสินทรัพย์ดิจิทัล ตัวตนดิจิทัล และ Smart Contract มาพร้อมหน้าจอ E Ink®, เทคโนโลยี Clear Signing และ Transaction Check รวมถึงการเชื่อมต่อ Bluetooth® และ NFC เพื่อรองรับการทำธุรกรรมจากทุกที่
นอกเหนือจากฮาร์ดแวร์ Ledger ยังพัฒนาแอป Ledger Wallet ซึ่งเป็นศูนย์กลางบริหารจัดการคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัล รองรับการซื้อ - ขาย - รับ -แลกเปลี่ยนด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
สำหรับภาคองค์กร Ledger เปิดตัวแพลตฟอร์ม Ledger Multisig ที่ออกแบบมาสำหรับบริษัท สถาบันการเงิน ผู้จัดการสินทรัพย์ ไปจนถึง SME และ DAO เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการกำกับดูแลและการบริหาร Treasury แบบ Multi-chain จากระบบกลางเดียว
ข้อมูลจาก Ledger ระบุว่า ปัจจุบันกว่า 20% ของมูลค่าสินทรัพย์คริปโตทั่วโลกได้รับการปกป้องด้วยอุปกรณ์ของบริษัท ซึ่งขายไปแล้วกว่า 8 ล้านเครื่องในกว่า 165 ประเทศ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2014 สะท้อนว่าความปลอดภัยที่แข็งแรงยังคงเป็น “เงื่อนไขจำเป็น” หากคริปโตต้องการขยายไปสู่ผู้ใช้กระแสหลักอย่างแท้จริง