JFIN Chain จับมือ 4 ยักษ์ใหญ่ เสริมแกร่ง Blockchain ไทย พร้อมยกระดับ Web3 สู่ชีวิตประจำวัน

Tech & Innovation

Digital Assets

ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวประชาสัมพันธ์

Tag

JFIN Chain จับมือ 4 ยักษ์ใหญ่ เสริมแกร่ง Blockchain ไทย พร้อมยกระดับ Web3 สู่ชีวิตประจำวัน

Date Time: 9 ก.ค. 2568 12:31 น.

Summary

  • JFIN Chain ประกาศความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่กับ 4 พันธมิตรหลัก ได้แก่ KANE Digital, Maxbit, KUB Chain และ SIX Network เพื่อร่วมกันสร้างระบบนิเวศบล็อกเชนที่แข็งแกร่งและยั่งยืน

JFIN Chain โดยบริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ในเครือ Jaymart Group ประกาศความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่กับ 4 พันธมิตรหลัก ได้แก่ KANE Digital, Maxbit, KUB Chain และ SIX Network เพื่อร่วมกันสร้างระบบนิเวศบล็อกเชนที่แข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี Web3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่ปลอดภัย โปร่งใส และสามารถเชื่อมโยงธุรกิจต่างๆ เข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4 โครงการความร่วมมือสำคัญ

JFIN Chain x KANE Digital - ผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Wealth และ Real World Asset Tokenization เข้าร่วมเป็น Validator Node บน JFIN Chain เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของเครือข่าย โดยมุ่งเน้นการนำทรัพย์สินจริงอย่างอสังหาริมทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์มาแปลงเป็นโทเคนบนบล็อกเชน เพื่อเปิดโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้งาน


JFIN Chain x Maxbit - แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการกำกับดูแลจากสำนักงาน ก.ล.ต. เข้าร่วมเป็น Node Validator อย่างเป็นทางการ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและการกระจายศูนย์ของเครือข่าย พร้อมเตรียมพัฒนาบริการใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาค


JFIN Chain x KUB Chain - ทั้งสองเครือข่ายเข้าร่วมเป็น Validator Node ให้กันและกัน พร้อมพัฒนาระบบ Bridge ที่เชื่อมต่อสินทรัพย์ดิจิทัลระหว่างสองเครือข่ายอย่างไร้รอยต่อ รองรับการใช้งาน Cross-Chain Liquidity Pool และลดการพึ่งพาตัวกลาง


JFIN Chain x SIX Network - ความร่วมมือแบบสองทิศทางที่ทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมเป็น Validator Node ให้กันและกัน ครอบคลุมการร่วมพัฒนาใน Bridging, Gas Circulation, Infrastructure Sharing และการสร้าง Use Case ใหม่ๆ เพื่อให้ Web3 กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

วิสัยทัศน์ร่วมกัน

  • ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นการยกระดับความปลอดภัยและมาตรฐานของระบบบล็อกเชนให้เป็นไปตามข้อกำหนดกฎหมาย 
  • เสริมสร้างระบบนิเวศให้แข็งแกร่งผ่านการเป็น Validator Node ร่วมกัน
  • สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ตั้งแต่การ Tokenize สินทรัพย์จริง การพัฒนา DeFi, NFT, Supply Chain จนถึง Loyalty Program
  • ที่สำคัญคือการผลักดันให้บล็อกเชนและ Web3 เป็นเทคโนโลยีที่ผู้คนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงแค่เป็นเครื่องมือการลงทุน แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจและบริการในอนาคต

อย่างไรก็ตามความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Web3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างแท้จริง


คำเตือน: คริปโตเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัล มีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ 




Author

ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวประชาสัมพันธ์