
รัฐบาลฮ่องกงผ่านร่างกฎหมายควบคุมสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) เมื่อวันพุธที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อขยายระบบการออกใบอนุญาตให้ครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ หลังจากที่รัฐบาลของหลายประเทศเริ่มขยับตัวรองรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
เนื่องจากสเตเบิลคอยน์มีเสถียรภาพมากกว่าสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบอื่น เนื่องจากมีมูลค่าผูกกับสินทรัพย์ในโลกจริง อย่างเช่น สกุลเงิน Fiat Currency หรือสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำ จึงต่างจากคริปโตฯ อย่างบิตคอยน์ที่มีความผันผวนสูง
ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายใหม่นี้ จะเน้นเฉพาะที่สเตเบิลคอยน์โดยจะอิงกับสกุลเงินในโลกจริง (Fiat-referenced Stablecoins) ซึ่งผู้ที่ออกเหรียญสเตเบิลคอยน์จะต้องยื่นขอใบอนุญาตจากธนาคารกลางฮ่องกง (Hong Kong Monetary Authority หรือ HKMA) พร้อมปฏิบัติตามข้อกำหนดต่าง ๆ อย่างเช่น การบริหารจัดการทุนสำรองที่เหมาะสม และการแยกทรัพย์สินของลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัท
ย้อนกลับไปในปี 2023 ฮ่องกงได้เริ่มใช้ระบบการออกใบอนุญาตสำหรับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล โดยผู้ที่ดำเนินงานภายในฮ่องกงจะต้องขอใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ และปฏิบัติตามมาตรฐานที่ระบุไว้ เพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์คริปโตฯ สู่ผู้ลงทุนรายย่อยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในขณะนั้น “สเตเบิลคอยน์” ยังไม่รวมอยู่ในกรอบกำกับนี้
ธนาคารกลางฮ่องกงระบุว่า “กฎหมายฉบับนี้จะช่วยยกระดับกรอบกำกับดูแลเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในฮ่องกง เสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงิน และกระตุ้นนวัตกรรมด้านการเงินในระยะยาว” พร้อมเสริมว่า หน่วยงานจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดเชิงลึกของกรอบกำกับนี้ในอนาคต
นอกจากนี้ รัฐบาลฮ่องกงยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กฎหมายฉบับใหม่นี้คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2025 โดยจะมีระยะเวลาที่เพียงพอให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมได้ศึกษาทำความเข้าใจในข้อกำหนดต่าง ๆ อย่างชัดเจน
YeFeng Gong ผู้อำนวยการฝ่ายความเสี่ยงและกลยุทธ์ของ HashKey OTC บริษัทซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้ HashKey Group ที่ได้รับใบอนุญาตในฮ่องกง กล่าวว่า “นโยบายสเตเบิลคอยน์ใหม่ของฮ่องกงนับว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในระดับโลก ด้วยการกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องมีทุนสำรองเต็มจำนวน (Full Reserve), มีหลักประกันการไถ่ถอนอย่างเคร่งครัด และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลางฮ่องกง”
นอกจากนี้ “กฎนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นระดับสถาบันให้กับนักลงทุน พร้อมยกระดับฮ่องกงให้เป็นผู้นำด้านการเงินดิจิทัลที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างครบถ้วน”
ความเคลื่อนไหวนี้ของฮ่องกงเกิดขึ้นหลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติเห็นชอบในร่างกฎหมาย GENIUS Act ซึ่งหากผ่านการบังคับใช้จะกลายเป็นกฎหมายฉบับแรกของสหรัฐฯ ที่ควบคุมผู้ให้บริการสเตเบิลคอยน์อย่างเป็นทางการ
ที่มา: CNBC
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney