เปิด 5 แนวทางสำหรับภาคธุรกิจใช้เทคโนโลยียกระดับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

Sustainability

Tech For Sustainability

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิด 5 แนวทางสำหรับภาคธุรกิจใช้เทคโนโลยียกระดับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

Date Time: 2 มิ.ย. 2566 16:45 น.

Video

กลเม็ดแบบ Netflix ทำไมคู่แข่งเลียนแบบให้ตายยังไง ก็ไล่ไม่ทัน | Digital Frontiers

Summary

  • 5 แนวทางในการใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยสร้างอนาคตด้านสภาพอากาศที่ยั่งยืนให้กับภาคธุรกิจ ได้แก่ โมเดลธุรกิจแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน AI ช่วยบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ AI ช่วยเพิ่มความสำเร็จในการใช้พลังงานหมุนเวียน ในทศวรรษหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ และระบบการเงินจะปรับปรุงใหม่ให้ใช้พลังงานน้อยลง

Latest


นวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะขับเคลื่อนภาคธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนมากขึ้น เพราะจะมีบทบาทในแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มผลิตภาพ การเพิ่มประสิทธิภาพ การประหยัดต้นทุน และกระบวนการอื่นๆ อีกมากมาย โดย DXC ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีได้คาดการณ์ 5  แนวทางในการใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยสร้างอนาคตด้านสภาพอากาศที่ยั่งยืนให้กับภาคธุรกิจมากขึ้น 

โมเดลธุรกิจแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

ปัจจุบัน ทรัพยากรธรรมชาติกำลังลดลงทั่วโลก และการนำทรัพยากรมาใช้มากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของทั่วโลกกำลังก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น เพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนระดับโลกที่เอื้อต่อการแข่งขันและไม่ก่อให้เกิดขยะ บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องปรับโมเดลธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ทรัพยากร พัฒนาผลิตภัณฑ์รีไซเคิลได้ และนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่

หนึ่งในความท้าทายสำคัญที่สุดของการก้าวสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนก็คือ การเก็บรวบรวมและแสดงข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ด้วยเหตุนี้จึงมีการพัฒนาพาสปอร์ตดิจิทัลสำหรับผลิตภัณฑ์ (Digital Product Passport หรือ DPP) เพื่อบันทึกข้อมูลผลิตภัณฑ์ด้วยความโปร่งใส ทั้งในส่วนของประวัติความยั่งยืน คุณสมบัติด้านสิ่งแวดล้อม และความสามารถในการรีไซเคิล โดยสหภาพยุโรปเป็นผู้ลงมือก่อนในเรื่องนี้ และคาดว่าผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในสหภาพยุโรปจะมีพาสปอร์ตดิจิทัลภายในปี 2573

AI ช่วยบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ

AI จะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการรับมือกับประเด็นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายทางชีวภาพ พลังงาน การคมนาคมขนส่ง หรือการบริหารจัดการระบบนิเวศเกษตร โดยในภาคเกษตรกรรมนั้น AI สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกและเพิ่มการทำงานอัตโนมัติเพื่อยกระดับการรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนตรวจจับโรคและการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้น ก่อนที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อพืชผลหรือปศุสัตว์ นอกจากเทคโนโลยีจะมีประโยชน์ต่อผลผลิตของฟาร์มแต่ละแห่งแล้ว ยังช่วยสร้างข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าที่มีอิทธิพลเชิงบวกต่อการตัดสินใจด้านนโยบายทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

AI ช่วยเพิ่มความสำเร็จในการใช้พลังงานหมุนเวียน

McKinsey ประมาณการณ์ว่า ภายในปี 2569 กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 80% จากระดับของปี 2563 ยกตัวอย่างเช่น ยุโรปจะเพิ่มสินทรัพย์ประเภทพลังงานหมุนเวียน เช่น แผงเซลล์แสงอาทิตย์ ยานยนต์ไฟฟ้า และระบบกักเก็บพลังงานราว 36 ล้านรายการสู่โครงข่ายไฟฟ้าภายในปี 2568 และราว 89 ล้านรายการภายในปี 2573

ระบบอัตโนมัติและการวิเคราะห์ข้อมูลสามารถช่วยบริหารจัดการแหล่งพลังงานแบบกระจายศูนย์ ควบคุมการใช้ไฟฟ้าส่วนเกิน และแจ้งเตือนจุดบกพร่องของโครงข่ายไฟฟ้าก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ ตลอดจนช่วยหน่วยงานสาธารณูปโภคปรับการจ่ายไฟฟ้าไปสู่ที่ที่ต้องการได้ทันที

ในทศวรรษหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ซอฟต์แวร์

อุตสาหกรรมยานยนต์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็นสัดส่วนเกือบหนึ่งในสี่ของทั่วโลก และเป็นสาเหตุสำคัญของมลภาวะทางอากาศในเขตเมือง เพื่อจัดการกับเรื่องนี้ หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และที่อื่นๆ กำลังพิจารณานโยบายและบังคับใช้กฎหมายเพื่อจำกัดการจำหน่ายรถใหม่ที่ใช้น้ำมันและก๊าซ ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก 18 รายได้เปลี่ยนหรือปฏิญาณว่าจะเปลี่ยนทั้งโดยสิ้นเชิงหรืออย่างมีนัยสำคัญ ไปสู่การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในช่วงหลายปีข้างหน้า

ยานยนต์ไฟฟ้าจะใช้ซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการรถให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยอัตโนมัติและคำนึงถึงความอ่อนไหวทางสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ ยานยนต์ประเภทนี้จะมีฟีเจอร์กำหนดเส้นทางอัจฉริยะและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งสามารถลดปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จไฟและระยะวิ่งได้

ระบบการเงินจะปรับปรุงใหม่ให้ใช้พลังงานน้อยลง

การเปลี่ยนผ่านไปสู่การดำเนินงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ถือเป็นวาระสำคัญสูงสุดสำหรับบรรดาธนาคารและองค์กรบริการทางการเงิน โดยซอฟต์แวร์ที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น อัลกอริทึมที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และการประมวลผลข้อมูลที่ดีขึ้น ถือเป็นส่วนสำคัญของความพยายามดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ ตลาดการเงินสีเขียวทั่วโลกจึงเติบโตจากที่มีมูลค่า 5,200 ล้านดอลลาร์ในปี 2555 เป็นมากกว่า 540,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2564

นอกเหนือจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ภาคบริการทางการเงินยังลดการใช้พลังงานลงอย่างมีนัยสำคัญด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนและการบีบอัดข้อมูล ซึ่งสามารถปรับปรุงรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลและประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูล พร้อมทั้งลดการใช้พลังงาน และนอกเหนือจากภาคการเงินแบบดั้งเดิมแล้ว แนวทางใหม่ๆ ยังช่วยเพิ่มความยั่งยืนของกระบวนการขุดคริปโตฯ อีกด้วย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ