กสิกรไทยลุย Green Finance ตั้งเป้า 20% ของพอร์ต ตอกย้ำเบอร์ 1 ESG และ SRI Fund
Date Time: 1 ต.ค. 2568 18:41 น.
“Summary“
ธนาคารกสิกรไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการเงินความยั่งยืน ครองส่วนแบ่งตลาด ESG Fund และ SRI Fund อันดับหนึ่งของประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วน Green & Sustainable Products 20% ของพอร์ต ในปี 2573
จงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ทบทวนกลยุทธ์การทำงานด้านความยั่งยืน เพื่อช่วยให้ธนาคารสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม
ในงานแถลงข่าว “ยุทธศาสตร์ความยั่งยืน ธนาคารกสิกรไทย 2568 : ฝ่าคลื่นความเปลี่ยนแปลง สู่การเติบโต ที่ยั่งยืนไปด้วยกัน” โดยได้ประกาศปรับยุทธศาสตร์ความยั่งยืน จากแกน ESG สู่การจัดการประเด็นสำคัญแบบองค์รวมเชื่อมโยงทุกมิติที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ได้อ้างอิงจากการแถลงนโยบายโดย “อนุทิน ชาญวีรกุล” นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2568 ที่ระบุว่า รัฐบาลจะเร่งบรรลุเป้าหมาย Net Zero เร็วขึ้น 15 ปี เป็นภายในปี 2593 ส่งผลให้ทุกภาคส่วน รวมถึงธนาคารกสิกรไทย ในฐานะภาคธุรกิจการเงินตระหนักถึงความสำคัญด้านปัญหาสิ่งแวดล้อม
โดยได้ตั้งเป้าหมายใหม่ในการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อและเงินลงทุนเพื่อความยั่งยืน จากเดิม 2 แสนล้านบาท เป็น 4-5 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วน 20% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด
ซึ่ง ณ เดือนสิงหาคม 2568 มียอดสะสมของสินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืนกว่า 1.7 แสนล้านบาท และคาดว่าจะแตะในหลัก 2 แสนล้านบาทภายในสิ้นปี 2568 นี้
โดย KAsset มีส่วนแบ่งทางการตลาด ESG Fund และ SRI Fund ในประเทศไทยเป็นอันดับที่หนึ่ง สัดส่วน 28% ของตลาดทั้งหมด ด้วยมูลค่าสินทรัพย์รวมภายใต้การจัดการ (AUM) กว่า 3.89 หมื่นล้านบาท และ 3.79 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ รวมทั้งมี Beacon Impact Fund ที่มุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่สร้างผลกระทบเชิงบวก
จงรัก รัตนเพียร กล่าวเสริมว่า การเดินหน้าด้าน ESG ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงภาพลักษณ์ แต่เป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจให้รองรับบริบทใหม่ของโลก อย่างมาตรการ CBAM ของยุโรป และในตลาดทุนไทยเองก็เร่งส่งเสริม SET ESG Index เพื่อยกระดับการลงทุนในหุ้นที่ยั่งยืน
จึงเป็นหน้าที่ของภาคเอกชนที่จะสนับสนุนผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Green Bond ให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น
ขณะที่กลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ด้านความยั่งยืน ธนาคารกสิกรไทยเล็งเห็นศักยภาพของกลุ่ม Corporate Business เนื่องจากเป็นภาคธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมในการปรับตัว รวมถึงสามารถเป็นแบบอย่างในการดำเนินงานให้แก่กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมด้วยเช่นกัน
ด้านคุณภาพสินเชื่อของธนาคารกสิกรไทยคาดว่า NPL จะไม่เกิน 3.25% ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ตั้งเป้าไว้ แม้จะมีความกังวลในเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่มธุรกิจ SME บางประเภท
ติดตามข่าวสารด้าน Sustainability ได้ที่นี่ https://www.thairath.co.th/money/sustainability
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney
Author
