Quick Big Win ปฏิวัติสู่ “ไฟฟ้าสีเขียว”

Sustainability

ESG Strategy

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

Quick Big Win ปฏิวัติสู่ “ไฟฟ้าสีเขียว”

Date Time: 14 ต.ค. 2568 04:13 น.

Summary

การประกาศเลื่อนเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ให้เร็วขึ้น 15 ปี จากปี 2065 เป็นปี 2050 ของรัฐบาลอนุทิน เป็นหนึ่งในนโยบายที่ไม่ใช่แต่แวดวงพลังงานให้ความสนใจ

Latest

แบงก์ทยอยประกาศ No Gift Policy ไม่รับของขวัญ ของกำนัล สร้างบรรทัดฐาน ตัดช่องทางติดสินบน

การประกาศเลื่อนเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ให้เร็วขึ้น 15 ปี จากปี 2065 เป็นปี 2050 ของรัฐบาลอนุทิน เป็นหนึ่งในนโยบายที่ไม่ใช่แต่แวดวงพลังงานให้ความสนใจ แม้กระทั่งคนในแวดวงการเงินก็ให้ความสนใจเช่นกัน เพราะมองว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของพลังงานไฟฟ้าสะอาดและลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว

โดยเฉพาะโครงการรีเซ็ตโครงสร้างพลังงานเวอร์ชัน “Quick Big Win” ของ รมว.พลังงาน “อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” ซึ่งมองกันว่าสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และตอบโจทย์กับเป้าหมาย Net Zero 2050

โดยไฮไลต์สำคัญ คือ 1.โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ ไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ต่อชุมชน และด้วยมูลค่าการลงทุนที่มากกว่า 30,000 ล้านบาท จะทำให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 1,600 ตำแหน่ง ที่ดีกว่านั้นคือ ชุมชนจะได้ใช้ไฟที่ผลิตเองในพื้นที่ในราคาที่ถูกกว่าระบบส่ง และหากมีกำไรก็จะกลับมายังชุมชนอีกต่อหนึ่ง ช่วยกระจายรายได้ให้กับชุมชนทั่วประเทศ โดยกระทรวงพลังงานเตรียมออกประกาศเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์ชุมชนในเดือน พ.ย.นี้

ตามมาด้วย 2.โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร กว่า 1,200 ระบบ บนพื้นที่กว่า 700,000 ไร่ทั่วประเทศ สร้างเม็ดเงินผ่านการลงทุนมากกว่า 12,500 ล้านบาท ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้ถึง 87.5 เมกะวัตต์ ขณะที่โครงการที่ 3 คือ การเร่งอนุมัติการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ลอยน้ำใน 3 เขื่อนหลัก ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่จะติดตั้งในเขื่อนภูมิพล เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ กำลังการผลิตรวม 1,638 เมกะวัตต์ ซึ่งส่วนนี้ทำให้เกิดการลงทุนกว่า 53,000 ล้านบาท และทำให้ต้นทุนผลิตไฟฟ้าราคาถูกอีกด้วย

และสุดท้ายโครงการที่ 4 ใน “Quick Big Win” เวอร์ชันพลังงานสะอาด และเป็นที่รอคอยของคนไทยจำนวนมากที่ต้องการเข้าสู่พลังงานสีเขียว คือ การลดหย่อนภาษีสูงสุด 20,000 บาท สำหรับผู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้คนส่วนใหญ่ตัดสินใจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองได้เร็วขึ้น โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วม 90,000 ครัวเรือน กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนได้กว่า 20,250 ล้านบาท ลดการใช้ไฟฟ้าได้ 585 ล้านหน่วยต่อปี

ขณะที่โครงการอื่นๆ ที่กลุ่มธุรกิจพลังงานกำลังจับตา คือ โครงการสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะอาดตรง (Direct PPA) รวม 2,000 เมกะวัตต์ ที่คาดว่าจะมีชัดเจนภายในเดือน พ.ย.นี้ โดยมองกันว่าจะช่วยให้เกิดเม็ดเงินลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจอีกกว่า 65,000 ล้านบาท ส่วนคนที่รอแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศฉบับใหม่นั้น คาดว่าฤกษ์งามยามดีที่จะคลอดแผน PDP 2026 นั้นจะเป็นช่วงต้นปีใหม่ 2569

กระทรวงพลังงานประเมินว่า 4 โครงการใน 4 เดือนนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากมูลค่าการลงทุนที่สูงถึง 700,000 ล้านบาท มีการจ้างงานกว่า 16,000 ตำแหน่ง และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 10 ล้านตันต่อปี

ขณะที่บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยออกรายงานประเมินว่า โครงการทั้งหมดนี้จะช่วยให้ ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในไทยเพิ่มขึ้นสูงสุด 1.4 เท่า และลดค่าไฟครัวเรือนราว 50—60% ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชนอย่างยั่งยืนในระยะยาว.

มิสเตอร์พี


คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ