
Sustainability Expo 2025 หรือ SX2025 นับเป็นมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ แนวคิดหลัก “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) งานนี้เปรียบเสมือนเวทีสำคัญที่รวบรวมองค์กรจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคม เพื่อร่วมแสดงพลังและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ
ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสกับนิทรรศการและกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางในการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ของโลกยุคปัจจุบัน ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงการสร้างความสมดุลในวิถีชีวิตผู้คน โดยนำเสนอผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงโครงการที่สร้างสรรค์และลงมือทำจริง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคนในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโลกที่ยั่งยืน
ธนาคารกรุงเทพ โชว์แนวคิด “Growing Together” เติบโต เคียงข้าง ยั่งยืน ย้ำบทบาทธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค
ฐานะที่เป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมงาน Sustainability Expo 2025 อย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ ได้นำเสนอแนวคิด "Growing Together เติบโต เคียงข้าง ยั่งยืน" ซึ่งเป็นปรัชญาการดำเนินธุรกิจที่ธนาคารยึดมั่นมาโดยตลอด พร้อมยกเคสความสำเร็จผ่าน 4 โครงการตัวอย่าง ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการผนวกความรับผิดชอบต่อสังคมเข้ากับกระบวนการดำเนินธุรกิจหลัก (CSR in process) ตอกย้ำการเป็น ‘ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค’ หนุนทุกภาคส่วนเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
คุณไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆ กัน โดยธนาคารตั้งเป้าหมาย Net Zero จากการดำเนินงานภายใน (Scope 1 และ 2) ภายในปี 2578 และจากการให้สินเชื่อและการลงทุน (Scope 3 Category 15)
ภายในปีเป้าหมายของประเทศไทย พร้อมกับหลอมรวมประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล หรือ ESG เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์องค์กรเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ การดำเนินการเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนของธนาคารกรุงเทพ ประกอบด้วย 3 ด้าน คือ
1.การให้สินเชื่อแก่โครงการและกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น สินเชื่อเพื่อการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน สินเชื่อเพื่อธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า สินเชื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2.ธนาคารให้ความสำคัญกับการลดก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการดำเนินงานของธนาคารโดยตรง และโดยอ้อม ซึ่งธนาคารมีนโยบายและมีการนำมาตรฐาน ISO 14001 มาปรับใช้ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงานอย่างเป็นระบบ ร่วมกับส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของพนักงานในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร
3.ธนาคารดำเนินโครงการเพื่อสังคมที่หลากหลายครอบคลุมด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ และด้านสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะ ‘ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค’ ได้ร่วมออกบูธในงาน Sustainability Expo 2025 ครั้งที่ 6 ภายใต้แนวคิด “Growing Together” “เติบโต เคียงข้าง ยั่งยืน” หนึ่งในแนวคิดการดำเนินธุรกิจของธนาคารกรุงเทพ ที่เน้นการเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าและสังคม โดยนำเสนอผ่าน 4 โครงการตัวอย่าง ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกและเป็นรูปธรรม เพื่อจุดประกายให้ประชาชน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ได้นำไปปรับใช้ ลดความเสี่ยงและลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ กฎระเบียบการค้าใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน ได้แก่
1. โครงการ Bualuang Save the Earth: รักษ์ท่าจีน โดยธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับชุมชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ แก้ปัญหาขยะไหลลงสู่ท้องทะเลอ่าวไทย นำร่องในคลองหลวงสหกรณ์และคลองพิทยาลงกรณ์ ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 พร้อมติดตั้งเครื่องมือดักขยะ ได้แก่ ทุ่นดักขยะ กระชังไม้ไผ่ดักขยะ และเครื่องมือดักขยะแบบปักหลัก โดยสามารถดักขยะในน้ำก่อนไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีนและทะเลอ่าวไทย ได้รวมกว่า 36,665 กิโลกรัม (ข้อมูล ณ วันที่ 1 กันยายน 2568) ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 128,923 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นอกจากนี้ธนาคารยังได้จัดตั้งธนาคารขยะชุมชน พร้อมนำหลัก 3R ได้แก่ Reduce Reuse Recycle ใช้ในการจัดการขยะชุมชนอย่างครบวงจร เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์และรายได้เสริมให้กับชุมชนอีกด้วย
2.โครงการ “ธนาคารกรุงเทพ ร่วมส่งมอบ 70 แสนซีซี บริจาคโลหิตต่อชีวิตทั่วไทย” เพื่อร่วมส่งมอบโลหิตสนับสนุนโครงการ “70 พรรษา 70 ล้านซีซี เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” ของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยขยายจุดรับบริจาคเคลื่อนที่ อีก 10 จุดจากเดิม 2 จุดในกรุงเทพมหานคร ที่ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่สีลม และอาคารพระราม 3 เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มโอกาสเข้าถึงกิจกรรมการบริจาคโลหิตให้กับลูกค้า ประชาชน พันธมิตร และพนักงานธนาคารที่ต้องการร่วมเป็น “ผู้ให้” อย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมบริจาคโลหิตประจำทุกไตรมาส ประกอบด้วย 1.) สาขาประตูช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ 2.) สาขาพิษณุโลก 3.) สาขาศรีราชา จังหวัดชลบุรี 4.) สาขาถนนโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5.) สาขาหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 6.) สาขาฉะเชิงเทรา 7.) สาขานครราชสีมา 8.) สาขาอุดรธานี 9.) สาขาหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และ 10.) สาขาถนนชนเกษม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพ ได้ดำเนินกิจกรรมตั้งจุดรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปัจจุบัน ได้ส่งมอบโลหิตให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย รวม 36,364,450 ซีซี สามารถนำไปช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้จำนวน 270,725 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568)
3. การประกวดดนตรีไทย “ประลองเพลง ประเลงมโหรี” ธนาคารกรุงเทพ เป็นสถาบันการเงินแห่งแรกและแห่งเดียว ที่ให้การสนับสนุนและร่วมดำเนินการจัดการประกวดดนตรีไทยระดับมัธยมศึกษา ประเภทการบรรเลงรับร้อง และการบรรเลงเดี่ยวเครื่องดนตรี อาทิ จะเข้ ระนาดทุ้ม ซออู้ ขลุ่ยเพียงออ ในชื่อ “ประลองเพลง ประเลงมโหรี” มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2529 เพื่อสนองพระราชปณิธาน
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีความรู้ ความเข้าใจในดนตรีไทยประเภทมโหรีที่ถูกต้อง สามารถถ่ายทอดเพื่ออนุรักษ์และสืบสานดนตรีไทยให้คงอยู่สืบไป โดยธนาคารกรุงเทพ ยังได้เผยแพร่เทปบันทึกการแสดงสดอันทรงคุณค่าของศิลปินไทยหลากหลายแขนง ทั้งการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีไทยตามขนบของราชสำนัก การละเล่น ดนตรีและเพลงพื้นบ้าน และศิลปะการแสดงร่วมสมัย ผ่านช่องทาง Facebook Page และ YouTube ในชื่อ “ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ”
ในการร่วมงาน SX 2025 ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ ยังได้เชิญ เก่ง ธชย ประทุมวรรณ ศิลปินที่เคยผ่านเวทีประกวดดนตรีไทย ประลองเพลง ประเลงมโหรี มาบอกเล่าประสบการณ์ของชีวิตคนดนตรี พร้อมโชว์การแสดงดนตรีไทยและขับร้อง บนเวที Talk Stage ในวันจันทร์ที่ 29 กันยายน 2568 เวลา 12.00-13.30 น. นอกจากนี้ยังมีโชว์การบรรเลงดนตรีไทยและนาฏศิลป์ไทย โดยยุวศิลปิน จากโรงเรียนพาทยกุลการดนตรีและนาฏศิลป์ ในเวลา 11.00-12.00 น. บริเวณ Gathering Space ในวันเดียวกันด้วย
4. ผลิตภัณฑ์การเงินเพื่อความยั่งยืน ธนาคารกรุงเทพให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างความยั่งยืน เพื่อส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและเป้าหมายด้านการลดก๊าซเรือนกระจกของลูกค้า ตลอดจนการสนับสนุนนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) ของประเทศ
สำหรับภาคธุรกิจและเอสเอ็มอี อาทิ สินเชื่อบัวหลวงเพื่อการปรับตัวธุรกิจ สินเชื่อบัวหลวงกรีนเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และสำหรับภาคครัวเรือน อาทิ สินเชื่อบัวหลวงพูนผลกรีน เป็นต้น
“สำหรับวัตถุประสงค์ในการร่วมออกบูธในงาน Sustainability Expo 2025 เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมด้าน ESG และ CSR ผ่านโครงการสำคัญต่างๆ รวมทั้งเป็นการถ่ายทอดแนวความคิดในการดำเนินธุรกิจที่เน้นการเติบโตไปพร้อมกับสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงการที่ธนาคารให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การบูรณาการ ESG เข้ากับการดำเนินธุรกิจ และการส่งเสริมการเติบโตให้เศรษฐกิจอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชมงาน โดยเฉพาะเยาวชน ให้ตระหนักถึงความยั่งยืนในทุกภาคส่วนด้วยเช่นกัน” คุณไชยฤทธิ์ กล่าวเสริม
นอกจากนี้ภายในบูธ ธนาคารได้ฉายภาพความสำเร็จของลูกค้าส่วนหนึ่ง ที่ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อปรับเปลี่ยนสู่ธุรกิจสีเขียว ได้แก่ บริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด ผู้นำนวัตกรรมอาคารประหยัดพลังงานครบวงจร บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด ธุรกิจขายกาแฟ ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม บริษัท โรงเลื่อยจักรท่าเสา จำกัด ธุรกิจแปรรูปไม้สักครบวงจร ที่ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “Green Product สู่ความยั่งยืน” บริษัท บูรพา พรอสเพอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งจากข้าวสำเร็จรูป ดำเนินธุรกิจโดยเน้นความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด ธุรกิจผลิตจำหน่ายน้ำมันพืช ที่ให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรม และ บริษัท ลำปางฟู้ดโปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าแปรรูป ที่มุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรเพื่อชีวิตที่มั่นคงของเกษตรกร พนักงาน คู่ค้าและผู้ลงทุน
คุณไชยฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ในฐานะสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับการลงทุนและการดำเนินธุรกิจ ธนาคารกรุงเทพมองว่าเรามีบทบาทสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เป้าหมายความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น
“ธนาคารมีการสนับสนุนภาคธุรกิจผ่าน “ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อความยั่งยืน” ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อบัวหลวงกรีน สินเชื่อบัวหลวงเพื่อการปรับตัวธุรกิจ สินเชื่อบัวหลวงกรีนเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งออกแบบมาเพื่อสนับสนุนลูกค้าที่ต้องการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจด้านใดด้านหนึ่งใน 3 ด้านคือ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ หรือการลดการสร้างมลพิษ รวมทั้งตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารกรุงเทพยังมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและระดมทุนให้แก่โครงการ หรือ กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของภาครัฐ และภาคเอกชน ผ่านการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายตราสารหนี้ตามมาตรฐานสากล และเป็นผู้ให้คำปรึกษาการออกตราสารหนี้สีเขียวและตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนให้กับธุรกิจต่าง ๆ ที่สนใจระดมทุนผ่านตลาดทุน
โดยในปี 2567 ตลาดทุนไทยมีมูลค่าการออกตราสารหนี้ด้านความยั่งยืนรวม 106,332 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นธุรกรรมที่ธนาคารเป็นผู้จัดจำหน่ายมูลค่า 62,000 ล้านบาท หรือ 58.31% ส่งผลให้ธนาคารได้รับรางวัล Best Bank for Green Bonds in Asia-Pacific และ Best Bank for Sustainable Finance in Thailand ปี 2567 จากนิตยสารโกลเบิลไฟแนนซ์ สะท้อนถึงความสำเร็จของธนาคารในฐานะผู้นำด้านการระดมทุนตราสารหนี้สีเขียว และตราสารหนี้ด้านความยั่งยืนของไทย
“ธนาคารกรุงเทพดำเนินธุรกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ธนาคารสามารถรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ธนาคารยังช่วยลูกค้าให้มองเห็นโอกาสและความท้าทาย พร้อมทั้งปรับตัวเพื่อให้รับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ขณะเดียวกันธนาคารยังร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ บริษัทในเครือ ในการทำโครงการหรือกิจกรรมที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม และสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกภาคส่วนเติบโตไปพร้อมกันได้อย่างยั่งยืน” คุณไชยฤทธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารได้เชิญชวนลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จำนวน 3 ราย ร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้า ในโซน Food Fest ชั้น LG ได้แก่ บริษัท กล้า-แกร่ง จำกัด ผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ด้วยนวัตกรรมการปรับปรุงพันธุ์ด้วยฟิสิกส์ชั้นสูง และเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัท เตาหลวงฟู้ดโปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารเหนือพื้นเมือง “ไส้อั่วเมืองแพร่” สินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว ที่ใช้นวัตกรรมยืดอายุอาหารให้อยู่ได้นานขึ้น โดยไม่ใช้สารกันบูด และยังเชื่อมโยงวัตถุดิบในชุมชนเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตในท้องถิ่น
และ บริษัท เอ็น แอนด์ เจ อควาโปรดักส์ จำกัด ผู้เพาะเลี้ยง ผลิตและแปรรูปปลากะพงยักษ์ ภายใต้แบรนด์ “ขาวผ่องฟาร์ม” โดยเชื่อมโยงการเพาะเลี้ยงกับเครือข่ายเกษตรกลุ่มผู้เลี้ยงปลากะพงยักษ์ฉะเชิงเทรา และได้รับมาตรฐาน GHPs และ HACCP ปัจจุบันมีการขยายสู่ตลาด Food Service และต่างประเทศ ด้วยแนวคิด การเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับครัวไทย ด้วยวัตถุดิบของไทย สู่มาตรฐานโลก
ผู้เข้าร่วมงานสามารถเยี่ยมชมบูธธนาคารกรุงเทพ ได้ที่ชั้น G ฮอลล์ 4 โซน Better Community บูธหมายเลข D17 พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมภายในบูธ เพื่อรับของที่ระลึกรักษ์โลก ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 26 กันยายน - วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์