สอน.ร่วมขบวนลดโลกเดือด

Sustainability

ESG Strategy

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

สอน.ร่วมขบวนลดโลกเดือด

Date Time: 26 เม.ย. 2568 05:00 น.

Summary

  • รู้จัก อุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) ตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม” ที่ทำให้ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เข้ามารับภารกิจผลักดันอนาคตอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลให้ก้าวไปถึงเป้าหมาย Bio Economy เพื่อทำให้อ้อยเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ

Latest

ปตท.หาพันธมิตรลดโลกเดือด

สัปดาห์นี้ คอลัมน์ Sustainable Together ขอแนะนำให้ผู้อ่านรู้จักกับ อุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) ตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม” ที่ทำให้ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เข้ามารับภารกิจผลักดันอนาคตอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลให้ก้าวไปถึงเป้าหมาย Bio Economy เพื่อทำให้อ้อยเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ รวมถึงพัฒนาคุณภาพชาวไร่อ้อย และโรงงานน้ำตาลให้มีเป้าหมายเดียวกัน

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) อรรถาธิบายเพิ่มเติมว่า การผลักดันอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ด้วยนวัตกรรมสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย สอน.ได้เน้นขับเคลื่อนแผน เพื่อเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมและสนับสนุนชาวไร่อ้อย มีความมั่นคงในอาชีพ ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาล ประกอบกิจการอยู่ได้ ช่วยลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่เกิดจากการเผาอ้อย

ล่าสุด ฤดูการผลิตปี 2567/68 คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณอ้อยทั่วประเทศรวม 93.17 ล้านตัน ทำให้ สอน.ต้องทำแผนขับเคลื่อน มาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ ที่ตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอุตสาหกรรมชีวภาพในอาเซียน ในปี 2570 ผ่านการพัฒนาและลงทุนใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ พลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) เคมีชีวภาพ (Biochemicals) ชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharmaceuticals) ผ่าน 4 มาตรการ ประกอบด้วย

1.มาตรการขจัดอุปสรรคการลงทุน และสร้างปัจจัยสนับสนุน อาทิ การปรับปรุงพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อให้สามารถนำน้ำเชื่อมไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นที่ไม่ใช่น้ำตาลได้ การเพิ่มกิจการอุตสาหกรรมชีวภาพ ในบัญชีประเภทโรงงาน การยกระดับผังเมือง เพื่อสนับสนุนอุตสาห กรรมชีวภาพ ในพื้นที่ศักยภาพ เช่น จังหวัดนครสวรรค์ และอุบลราชธานี

2.มาตรการเร่งรัดการลงทุนภายในประเทศ เพิ่มสิทธิประโยชน์การลงทุนในกิจการอุตสาหกรรมชีวภาพ โดยในปัจจุบันมีความก้าวหน้าการลงทุน โครงการอุตสาหกรรมชีวภาพ (Bio Hubs) มูลค่ารวม 35,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนในโครงการอุตสาหกรรมชีวภาพทั่วประเทศ รวม 160,000 ล้านบาท มีโครงการสำคัญๆ อาทิ โครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ โครงการ Bio Hub Asia จังหวัดฉะเชิงเทรา โครงการนิคมอุตสาหกรรมอุบลราชธานี โครงการลพบุรีไบโอคอมเพล็กซ์

3.มาตรการกระตุ้นอุปสงค์ เน้นการสร้างตลาด การรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพมากขึ้น โดยกำหนดมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ให้ผู้ประกอบการยื่นขอยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นจำนวน 25% สำหรับรายจ่ายที่เป็นค่าซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ครอบคลุมผลิตภัณฑ์พลาสติกย่อยสลายได้ 11 ชนิด, การออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชีวภาพให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น และ 4.มาตรการสร้างเครือข่ายในรูปแบบของศูนย์กลางความเป็นเลิศด้านชีวภาพ (CoBE) เพื่อเตรียมความพร้อม รวมทั้งบริหารงานวิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรมเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ

สอน.ได้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมชีวภาพ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์วิเคราะห์ ทดสอบ รับรองผลิตภัณฑ์วัสดุชีวภาพ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพต้นแบบสู่เชิงพาณิชย์ รวมทั้งพัฒนาศูนย์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมชีวภาพ ที่ปัจจุบันมีฐานข้อมูลสำคัญด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ 9 ฐาน มีผู้ใช้งานสะสม 120,000 ครั้ง

“การขับเคลื่อนเกษตรกรรมมูลค่าสูง สู่อุตสาหกรรมอนาคต นอกจากจะสร้างความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน ยังเป็นการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ