ทำไมคนรวย "ไม่ซื้อประกัน" แต่บางคนยอมจ่ายเบี้ยเกือบ 500 ล้าน? เขาบริหารความเสี่ยงต่างกันอย่างไร

เคยสงสัยกันไหมว่า คนรวยเขาซื้อประกันกันหรือเปล่า? คำตอบอาจไม่ได้มีแค่ "ใช่" หรือ "ไม่" เพราะจากแนวคิดของ 3 คนดังในวงการธุรกิจและการลงทุนอย่าง ซีเค เจิง ซีอีโอ Fastwork, ดิว-วีรวัฒน์ วลัยเสถียร นักลงทุนชื่อดัง และ คมสันต์ แซ่ลี ผู้ก่อตั้ง Flash Express ที่เล่าบนเวที BITKUB SUMMIT 2025 by Tencent Cloud มีเหตุผลเบื้องหลังที่น่าสนใจและเราทุกคนสามารถปรับใช้กับการเงินของตัวเองได้

ทีม "ไม่ซื้อประกันฯ" เพราะมั่นใจว่าจ่ายไหว!

ประกันภัย มีหลายแบบขึ้นอยู่กับเราจะจ่ายเงินซื้อเพื่อจัดการความเสี่ยงด้านไหน เช่น ประกันชีวิต ถ้าเราเสียชีวิตถึงจะได้เงิน, ประกันสุขภาพ ป่วยแล้วเบิกเคลมได้, ไปจนถึงประกันภัยรถยนต์ ถ้าเกิดเฉี่ยวชนเราก็ไม่เจ็บกระเป๋าตังค์แต่สิ่งที่เราต้องจ่ายคือ ค่าเบี้ยประกันภัยในแต่ละปีเพื่อแลกกับความคุ้มครองที่ได้มา หลายคนเลยคิดถึงความคุ้มค่าจากเงินที่จ่ายไป รวมถึงคนดัง 2 คนอย่าง “ซีเค เจิง” ซีอีโอ Fastwork และ “ดิว-วีรวัฒน์ วลัยเสถียร” นักลงทุน ที่เลือกจะไม่ซื้อประกันฯ เขาไม่ซื้อประกันแบบไหน และเพราะอะไร?

ฝั่ง ซีเค เจิง ให้เหตุผลชัดเจนว่า ไม่ชอบประกันชีวิตและไม่ซื้อประกันสุขภาพ เพราะมองว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมันน้อยมาก และถ้าเกิดขึ้นจริงเขาก็มั่นใจว่า "จ่ายไหว" เช่น ถ้าวันนี้ป่วยเป็นมะเร็ง หรือเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ต้องซ่อมรถเอง CK ย้ำว่าเขายอมรับความเสี่ยงตามที่สามารถรับได้ 

“ประกันรถยนต์ผมก็ไม่ซื้อ ผมเป็นคนที่ไม่ชอบประกันเลยเพราะผมรู้สึกว่าถ้าเหตุมันเกิดขึ้นผมจ่ายได้ ผมยอมเสี่ยง” ซีเค เจิง กล่าว

ส่วน ดิว-วีรวัฒน์ วลัยเสถียร นักลงทุนที่ทำธุรกิจหลายด้าน เล่าว่า เขาไม่ซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพ (ซีเค แซวว่าทั้งที่สูบบุหรี่จัดขนาดนี้) แต่มองว่า ประกันภัย ยังจำเป็นกับคนที่มีภาระหรือยังรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิต เช่น ถ้าใครที่เป็นคนหาเงินเข้าบ้าน มีภาระต้องผ่อนบ้าน รถ มีครอบครัวต้องส่งลูกเรียน ถ้าเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ประกันฯ ก็อาจช่วยได้“ประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพโคตรสำคัญ แต่อย่างผมประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ผมไม่ได้ซื้อ แต่ผมซื้อแค่ประกันภัยรถยนต์กับประกันภัยอัคคีภัยหรือประกันเดินทางแค่นั้นเอง” วีรวัฒน์ กล่าว

มุมมองคมสันต์ แซ่ลีซื้อประกันฯ ลดเสี่ยงจาก “ความอยาก”

ถึงเป็นคนรวย หรือมีเงินหลักพันล้านเหมือนกัน แต่เป้าหมายและการวางแผนชีวิตก็ต่างกัน อย่าง คมสันต์ แซ่ลี ผู้ก่อตั้ง Flash Express เล่าว่า เร็วๆ นี้เพิ่งจะซื้อประกันฯ ไป 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 500 ล้านบาท* เพราะเขามองว่าตัวเองมี 2 ความเสี่ยงใหญ่ในชีวิต

1. เสี่ยงเรื่องสุขภาพ ที่ตัวเขายอมรับว่า ไม่มีวินัยด้านสุขภาพ แต่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตแบบนี้มาก จึงต้องมีประกันฯ ไว้

2. เสี่ยงจากธุรกิจและการลงทุน ส่วนตัวเขาชอบลงทุนในธุรกิจโดยตรงเลยมีโอกาสการเจ๊งสูงกว่าการลงทุนแบบอื่น (เช่น หุ้นปันผล) และมีโอกาสที่ผมพลาดสักเรื่องหนึ่งแล้วเจ๊งไปเลย จึงจำเป็นต้องมีประกันฯ เพื่อป้องกันทั้งลูก และครอบครัวของผม

“การทำธุรกิจมีทั้งความเสี่ยงที่ Control ได้และ Control ไม่ได้อยู่มาก ผมเลยคิดว่าไม่อยากให้ครอบครัวของผมต้องมารับความเสี่ยงกับความโง่ที่ผมตัดสินใจเพราะความอยาก” คมสันต์ กล่าว

สำหรับเขาแล้วประกัน "คุ้มค่า" เพราะเป็นการใช้เงินเพียง 10% (จ่ายเบี้ย) เพื่อให้ได้ผลตอบแทน 150 เท่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน สุดท้ายถึงจะมีเงินมากมาย แต่ถ้าบริหารไม่เป็นชีวิตเราก็อาจยุ่งเหยิงกว่าที่คิด ซึ่งการบริหารความเสี่ยงเป็นเรื่องเฉพาะตัวของทุกคน ว่าเรามีเป้าหมายและอยากใช้ชีวิตแบบไหน สำหรับคนรวย "ประกัน" ก็เป็นเพียงเครื่องมือทางการเงินอีกชิ้นหนึ่งที่เขาเลือกใช้ หรือไม่ใช้… ก็ได้  ไม่ว่าจะมีเงินมากน้อยแค่ไหน เราทุกคนต่างมีเป้าหมาย และสิ่งที่อยากดูแลในชีวิต การเริ่มวางแผนเรื่องเงินก็อาจช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างสบายใจได้มากขึ้น

*อัตราแลกเปลี่ยนที่ 32.52 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney