
'ดิจิทัล เวนเจอร์ส' เร่งปั้นสตาร์ตอัพป้อนตลาดไทย พร้อมดึงผู้เชี่ยวชาญหลากหลายวงการติดปีกสตาร์ตอัพ พร้อมเปิดตัว 'DVAb1' อีกครั้ง หลังสตาร์ตอัพรุ่นแรกประสบความสำเร็จ ต่อยอดธุรกิจได้ยั่งยืน
นายอรพงศ์ เทียนเงิน ประธานกรรมการบริหารบริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า โครงการ Accelerator ในปีแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยสตาร์ตอัพที่เข้าร่วมโครงการ นอกจากจะได้รับการนำเสนอเงินลงทุนสูงสุด 8.5 ล้านบาทแล้ว ยังได้มีโอกาสร่วมงานกับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อต่อยอดธุรกิจ อาทิ OneStockHome สตาร์ตอัพที่สร้างแพลตฟอร์มการซื้อวัสดุก่อสร้างออนไลน์ ซึ่งได้รับการต่อยอดธุรกิจจากเครือซีเมนต์ไทย
ขณะที่ Seekster ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันหางานด้านการบริการสำหรับลูกค้าทั่วไป และ SMEs ได้รับการต่อยอดธุรกิจจาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทั้งยังมีสตาร์ตอัพอีกหลายรายที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีร่วมกับทางธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสตาร์ตอัพไทยของเรา
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของโครงการ DVAb0 ในปีแรก เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความโดดเด่นของโครงการ Accelerator ของดิจิทัล เวนเจอร์ส ที่มีต่อสตาร์ตอัพ และต่อยอดความสำเร็จได้เป็นอย่างดี ซึ่งตลอดระยะเวลา 6 เดือนของ DVAb0 สตาร์ตอัพที่เข้าร่วมโครงการสามารถเติบโตได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ดังนี้
PetInsure สตาร์ตอัพที่เอาใจคนรักสัตว์ด้วยการทำประกันภัยให้กับสัตว์เลี้ยงออนไลน์เป็นครั้งแรกในไทย มีจำนวนลูกค้าเติบโตเพิ่มขึ้น 45 เท่า (ข้อมูลในช่วง ต.ค. 59 – มี.ค. 60)
Seekster มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 77% (ข้อมูลในช่วง พ.ย. 59 – เม.ย. 60)
ทั้งนี้ โครงการ DVA ได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากมายในหลากหลายวงการที่มาร่วมกันเพิ่มศักยภาพแก่สตาร์ตอัพ ทั้งการสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ และพันธมิตรที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากหลากหลายวงการ อาทิ Baker & McKenzie, PrimeStreet Advisory, Google และ Microsoft เป็นต้น
“เราจึงได้จัดโครงการ DVAb1 ต่อเนื่องทันที เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จให้แก่สตาร์ตอัพไทย โดยคาดหวังให้สตาร์ตอัพในโครงการเติบโตไม่น้อยกว่า 2 เท่า และมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศที่ดีให้กับสตาร์ตอัพในบ้านเราให้เติบโตได้จริงและยั่งยืน พร้อมทั้งเอื้อประโยชน์ให้กับลูกค้าองค์กรของธนาคารฯ” นายอรพงศ์ กล่าว
นายชาล เจริญพันธ์ Head of Accelerator บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้โครงการ Accelerator ของเราโดดเด่นคือ ทีมที่ได้รับการคัดเลือก 10 ทีมนั้น นอกจากจะได้รับเงินทุนตั้งต้นทีมละ 300,000 บาท เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ระหว่างที่อยู่ในโครงการแล้ว ยังจะได้รับความรู้ต่างๆ จาก หลักสูตรที่ได้รับออกแบบและพัฒนา ให้สอดคล้องกับเป้าหมายมากที่สุดตลอด 6 เดือนเต็ม
ทั้งนี้ 3 เดือนแรกจะปูพื้นฐานความรู้ที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจให้แน่น ด้วย Startup Essential Program โดยสุรวัฒน์ พรหมโยธิน ความรู้ด้านกฎหมายโดย Baker & McKenzie และความรู้ด้านการเงินโดย PrimeStreet Advisory
ส่วน 3 เดือนหลัง เราจะเร่งให้สตาร์ตอัพสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยโปรแกรม Growth Hacking พร้อมมีเมนเทอร์พิเศษที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เหมาะสมกับธุรกิจของแต่ละทีมมาให้คำปรึกษาแบบทีมต่อทีม (Specialist & Dedicated Mentor) เพื่อให้สตาร์ตอัพเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนหลังจากจบโครงการ อีกทั้ง ยังมีโอกาสที่จะได้รับเงินลงทุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ ขั้นต่ำ 1 ล้านบาท หลังจากจบโครงการอีกด้วย
ขณะเดียวกัน สตาร์ตอัพที่เข้าโครงการ ยังมีโอกาสได้รับการต่อยอดทางธุรกิจทั้งจากธนาคารไทยพาณิชย์เอง และลูกค้าองค์กรของธนาคารฯ พร้อมทั้งโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การทำสตาร์ตอัพกับ Accelerator ชั้นนำในต่างประเทศ ด้วยความมุ่งหวังของ ดิจิทัล เวนเจอร์ส ที่จะให้ DVA เป็น Accelerator ที่ดีที่สุดในไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้