
บันทึกความทรหดของคนไทย ปี 2568 แผ่นดินไหว สงคราม น้ำท่วมใหญ่ การสูญเสีย และนายกฯ 2 คนในปีเดียว บทเรียนวางแผนชีวิต-การเงินที่ต้องมั่นคงกว่าเดิม
เชื่อไหมว่า... ในแผนการเงินที่พวกเราจดใส่สมุด หรือตั้งเป้าหมายไว้เมื่อต้นปี แทบไม่มีบรรทัดไหนเลยที่เขียนว่า "ถ้าเกิดแผ่นดินไหวกลางกรุง" หรือ "ถ้าน้ำท่วมจนสิ้นเนื้อประดาตัว” เราจะทำอย่างไร
ปี 2568 แทบจะเป็นปีที่สอนคนไทย ได้อย่างเจ็บแสบที่สุดว่า "โลกไม่เคยขออนุญาตก่อนจะเปลี่ยน" เพราะย้อนไป หลายคนเริ่มต้นปีนี้ ด้วยความหวัง ตั้งใจจะเก็บเงินให้มากขึ้น ปิดหนี้ให้จบ หรือเริ่มลงทุนอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นคง แต่ 12 เดือนที่ผ่านมา กลับโยนโจทย์ที่ "ไม่ได้อยู่ในตำรา" ใส่เราแบบรัวๆ และที่น่ากลัวคือ ความไม่แน่นอนเหล่านี้ไม่ได้มาทีละเรื่อง แต่มันมาเป็นชุด มาพร้อมกัน และมาเร็วกว่าที่คิด
นี่คือบันทึกความทรหดที่คนไทยต้องเจอในปีเดียว และเป็นบทเรียนการเงินที่แลกมาด้วยความจริงที่ว่า หลายเหตุการณ์ไม่ได้ทำให้เราแค่ "จนลง" แต่ทำให้เรา "ขาดสภาพคล่อง" จนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน
28 มีนาคม 2568 ภาพเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ที่คนกรุงรู้สึกได้ชัดเจน จนกลายเป็นความโกลาหล คือ จุดเริ่มต้นของความตื่นตระหนกที่มากกว่าแค่แรงสั่นสะเทือน ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเกิดขึ้นในพริบตา โดยเฉพาะภาพประวัติศาสตร์ที่สะท้อนบาดแผลการคอร์รัปชันอย่างการ "ถล่มของตึก สตง." ที่เผยให้เห็นการทุจริตในโครงสร้างรัฐ
บทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ได้บอกเราว่า ภัยธรรมชาติไม่ได้อยู่ไกลตัวอีกต่อไป และมันทำลาย "ทรัพย์สิน" ที่แพงที่สุดในชีวิตเราได้ในนาทีเดียว “เงินฉุกเฉิน" จึงไม่ใช่แค่มีไว้ซื้อของยามจำเป็น แต่มีไว้เพื่อให้เรามีที่ไปในวันที่บ้านที่เคยปลอดภัย แต่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
ปลายปีที่ควรจะเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นตัว กลับถูกปกคลุมด้วยความโศกเศร้าจากการสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ซึ่งส่งผลกระทบต่อบรรยากาศเศรษฐกิจและจิตใจคนไทยอย่างมหาศาล ความทุกข์ที่ประดังเข้ามาทำให้กำลังใจในการสู้ต่อของหลายคนแทบหมดสิ้น
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ปีนี้ได้เห็นความผันผวนทางการเมืองที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง
บทเรียนเรื่องนี้ คือ อย่าฝากชีวิตไว้กับนโยบายการเมือง เพราะในวันที่รัฐบาลเปลี่ยน นโยบายที่ "ควรจะได้" อาจกลายเป็น "ความว่างเปล่า" ในพริบตา
ในขณะที่ชายแดนต้องเผชิญกับ สงครามไทย-กัมพูชา ที่ยืดเยื้อจนกระทบเศรษฐกิจท้องถิ่นและการค้าขายหยุดชะงัก ภาคใต้กลับต้องเจอกับฝันร้ายที่หนักกว่านั้น เมื่อ หาดใหญ่ เมืองเศรษฐกิจสำคัญจมอยู่ใต้น้ำจากฝนที่ตกหนักที่สุดในรอบ 300 ปี ช่วงเดือน พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
คนธรรมดาไปจนถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ต้องเห็นทรัพย์สินที่สร้างมาทั้งชีวิตจมหายไปกับตา ความผิดพลาดในการรับมือของท้องถิ่น สะท้อนว่า เราพึ่งพาใครไม่ได้เต็มร้อยในวินาทีวิกฤติ
เหตุการณ์ทั้งหมดในปี 2568 สอนเราว่า ปีหน้าเราต้องวางแผนชีวิตและการเงินให้ "รัดกุม" มากขึ้น ดังนี้
ทั้งนี้ แม้เราไม่รู้ว่าปี 2569 จะดีขึ้นไหม หรือจะมีเซอร์ไพรส์อะไรรอเราอยู่อีก แต่สิ่งที่แน่นอนคือ เราคนเดิมที่ผ่านปี 2568 มาได้ คงไม่เปราะบางเท่าเดิม ปีที่ผ่านมาอาจจะพรากบางอย่างไปจากเรา แต่อย่างน้อยมันก็ได้มอบ "ภูมิคุ้มกัน" ที่หาซื้อไม่ได้จากคอร์สการเงินไหนๆ ให้เราไว้แล้ว กอดตัวเองให้แน่น ทบทวนบทเรียน แล้วก้าวสู่ปีหน้าด้วยแผนที่แข็งแรงกว่าเดิม
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https:// www.facebook.com/ThairathMoney