
ทำงานมาเหนื่อยๆ แค่ได้เปิดดูรูปลูกรักไม่ว่าจะเป็นน้องหมาหรือน้องแมว ชีวิตก็มีแรงสู้ต่อ ยิ่งตอนนี้เกิดกระแส Pet Humanization หรือการดูแลสัตว์เลี้ยงเหมือนเป็นคนในครอบครัวเรียกว่าเปย์เต็มที่ ทั้งของกิน ของเล่น ของใช้ ฯลฯ
แต่ค่าใช้จ่ายของสัตว์เลี้ยงไม่ได้มีแค่นี้ ยังมีค่ารักษาพยาบาลที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อน้องๆ อายุมากขึ้นด้วย เฉลี่ยแล้วอายุขัยของสุนัข และแมวอาจไปถึง 10-15 ปี ถ้าคิดเป็นเลขกลมๆ หลายคนอาจเปย์ให้สัตว์เลี้ยงหลักหมื่นหลักแสนจนเทียบเท่ากับเงินดาวน์บ้านได้เลย ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยงน้องสักตัว (หรือหลายตัว) อาจต้องวางแผนการเงินให้รอบด้านด้วย
เลี้ยงหมาหรือแมว ก็มีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่ต้องจ่ายทุกเดือน หลักๆ มีดังนี้
- ค่าอาหาร และขนมเฉลี่ยที่ 1,000 - 3,000 บาทต่อเดือน
- ค่าข้าวของเครื่องใช้ เช่น ที่นอน, ปลอกคอ, สายจูง, และอื่นๆ เฉลี่ย 20 - 2,000 บาทต่อครั้ง
- ค่าบริการดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น ฝากเลี้ยง, อาบน้ำตัดขน, ค่าวัคซีน และอื่นๆ เฉลี่ย 150 - 3,000 บาทต่อครั้ง
ทั้งหมดนี้คือ ตัวอย่างค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสัตว์อาจจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เช่น ค่าอาหารเม็ด อาหารเสริม อาจขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และช่วงวัย หรือถ้าน้องหมาแมวป่วย ก็อาจต้องกินอาหารสูตรพิเศษแต่ถ้ายังไม่เห็นภาพเรามีตัวอย่างค่าใช้จ่ายการเลี้ยงจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย สำหรับกลุ่มสุนัขพันธุ์ใหญ่ เฉลี่ยราว 28,000 บาทต่อปี ส่วนสุนัขพันธุ์เล็กมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 24,000 บาทต่อปี
ส่วนค่ารักษาพยาบาล เรียกว่าเป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้าเจอขึ้นมาค่าใช้จ่ายก็สูงลิ่ว มีข้อมูลตัวอย่างจาก ttb เช่น
- ค่ารักษาแมวในกรณีติดเชื้อทั่วไป เริ่มต้นประมาณ 500 - 1,500 บาทต่อครั้ง
- ค่ารักษาสุนัขที่มีอาการท้องเสียรุนแรง ประมาณ 1,000 - 3,000 บาทต่อครั้ง
- X-ray แมว ราคาประมาณ 800 - 1,500 บาทต่อครั้ง
- ค่าอัลตร้าซาวด์แมว ราคาประมาณ 1,500 - 2,500 บาทต่อครั้ง
- ค่าผ่าตัดเนื้องอกสุนัข ราคาอาจสูงถึง 15,000 - 30,000 บาทต่อการเจ็บป่วย
- สุนัขขาหักค่ารักษา ราคาอาจสูงถึง 20,000 - 50,000 บาทต่อการบาดเจ็บเห็นค่าใช้จ่ายที่เหมือนเลี้ยงลูกคนหนึ่งแล้ว ทาสหมา-แมว อาจต้องเริ่มวางแผนแล้วว่า จะรับน้องมาดูแลต้องเตรียมตัว เตรียมเงินในกระเป๋าแบบไหน
ค่าใช้จ่ายรายเดือนหลักพันในวันนี้อาจไม่หนักมาก แต่ถ้าเจอเรื่องฉุกเฉิน หมาแมวเจ็บป่วยขึ้นมาเราคงทนไม่ได้ถ้าไม่ได้ดูแลรักษาเขาให้ดี ซึ่งอาจต้องใช้เงินหลักแสน ดังนั้นต้องเริ่มวางแผนการเงินง่ายๆ 2 ส่วน ได้แก่
1. กองทุนฉุกเฉินเพื่อสัตว์เลี้ยงแสนรัก ก่อนจะรับน้องมาดูแล ลองคำนวณค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า สัก 3 - 6 เดือน เช่น ถ้าค่าเลี้ยงตกเดือนละ 3,000 บาท อาจเตรียมเงินไว้ 9,000 - 18,000 บาท เป็นเงินฉุกเฉินเมื่อมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น ถึงเราตกงาน แต่เจ้านาย (หมาแมว) เราต้องไม่อด
2. เจ็บป่วย แต่ไม่เจ็บกระเป๋า เพราะค่ารักษาพยาบาลน้องหมา น้องแมว ไม่ว่าจะอาการป่วยหนัก อุบัติเหตุ หรือการผ่าตัด อาจพุ่งสูงตั้งแต่ 10,000 ไปจนถึง 200,000 บาท ดังนั้นเราอาจเตรียมเงินก้อนเผื่อไว้ก่อน ซึ่งอันนี้ขึ้นอยู่กับค่ารักษาของคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้านว่ามีค่าบริการแบบไหน ถ้าเตรียมเงินไว้ส่วนหนึ่งก็อาจแบ่งเบาภาระเราได้บ้าง
หรือบางคนอาจเลือก ประกันสัตว์เลี้ยง ซึ่งอาจมีเงื่อนไขก่อนรับประกัน เช่น น้องหมาแมวต้องฉีดวัคซีนก่อน มีอายุไม่เกินกี่ปี และรับประกันในวงเงินจำกัด ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตามต้องการ แต่ต้องดูเรื่องความคุ้มครองและเงื่อนไขยกเว้นให้ดี
น้องหมา แมวตอนยังเล็กอาจไม่เจ็บป่วยบ่อยนัก แต่เมื่ออายุมากขึ้น ทั้งร่างกาย และพฤติกรรมก็อาจเปลี่ยนไป เช่น อาจมีค่าแพมเพิร์ส หรือค่าใช้จ่ายในการดูแลก็อาจเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นนอกจากเตรียมเงินให้พร้อม ยังต้องทำความเข้าใจกับสัตว์เลี้ยงของเรา เพื่อดูแลทั้งกายทั้งใจไปกันจนสุดทาง
ที่มา TTB analytics, ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, ทิพยประกันภัย, สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney