คลังชู TISA ปรับเกณฑ์ลดหย่อนภาษีฯ รายได้เกิน 1.5 ล้าน/ปี ลดน้อยลง มนุษย์เงินเดือนต้องวางแผนใหม่?

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

คลังชู TISA ปรับเกณฑ์ลดหย่อนภาษีฯ รายได้เกิน 1.5 ล้าน/ปี ลดน้อยลง มนุษย์เงินเดือนต้องวางแผนใหม่?

Date Time: 9 ธ.ค. 2568 14:02 น.

Video

SAWAKAMI บลจ.ญี่ปุ่นบุกไทย | BrandStory Exclusive EP.26

Summary

คลังชงมาตรการ TISA เข้าที่ประชุมครม. แต่หลายคนยังสงสัยว่า ถ้าคนเสียรายได้เกิน 1.5 ล้านบาท/ปี ถูกหั่นสิทธิลดหย่อนฯ เหลือ 0.7 เท่า แล้วคนรายได้ต่ำกว่านั้นจะลดหย่อนฯ มากขึ้นที่ 1.3 เท่า จะเวิร์คไหม?

Latest


“เก็บภาษีคนรวย มาช่วยคนรายได้น้อยกว่า”

หลายคนเคยได้ยินคำนี้มาตลอด และนี่อาจเป็นหัวใจคือสิ่งที่หลายรัฐบาลพยายามผลักดันเพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างเรื่องภาษีของประเทศ แม้จะฟังดูเป็นเรื่องที่ดี แต่หลายคนสงสัยว่าการให้คนที่มีรายได้มากกว่าต้อง “แบก” คนที่รายได้น้อยกว่าเสมอ เหมาะสมแค่ไหน

รายได้สูงกว่าจะหักลดหย่อนฯ ได้น้อยลง?

ล่าสุด (8 ธ.ค. 68) เกิดการถกเถียงอีกครั้งหลังจากที่เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ถึงการนำเสนอหลักการและกรอบมาตรการ Quick Big Win เสาที่ 4 เพื่อสนับสนุนการออมของประชาชน ซึ่งจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 9 ธ.ค. 68

หนึ่งในนั้นคือมาตรการลดหย่อนภาษีอย่าง Thailand Individual Saving Account หรือ TISA ที่มีรายละเอียดว่า

  • ผู้มีเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 1.5 ล้านบาท/ปี สามารถลดหย่อนได้ 1.3 เท่า สูงสุดไม่เกิน 1.04 ล้านบาท
  • ผู้มีเงินได้พึงประเมินเกินกว่า 1.5 ล้านบาท/ปี สามารถลดหย่อนได้ 0.7 เท่า สูงสุดไม่เกิน 5.6 แสนบาท (จากลดได้สูงสุดเดิม 1 เท่า)

อ่านมาถึงนี้หลายคนคงเห็นความแตกต่างของทั้งสองกลุ่มแล้วใช่ไหม? นี่แหละคือชนวนเหตุที่ทำให้การตั้งคำถามถึง “ความไม่เป็นธรรม” จากเหล่าผู้เสียภาษี เพราะเงื่อนไขของนโยบายนี้กำลังผลักให้กลุ่มคนที่มีรายได้มากกว่า 1.5 ล้านบาท/ปี หรือเฉลี่ย 1.25 แสนบาท/เดือน ซึ่งนับเป็นส่วนน้อยเหมือนต้องไปช่วยเหลือผู้มีรายได้ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท/ปี ที่มีสัดส่วนมากกว่า

ในเรื่องนี้มีมุมมองจาก ศาสตราจารย์ ดร.อธิภัทร มุทิตาเจริญ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า “สิ่งที่นโยบายใหม่นี้พยายามแก้คือ อีกหนึ่งจุดอ่อนเชิงโครงสร้างที่ฝังอยู่ในระบบภาษีมานาน นั่นคือการให้สิทธิลดหย่อนตามขั้นบันไดภาษี ที่ยิ่งรายได้สูงยิ่งได้ประโยชน์มาก เช่น คนที่อยู่ในขั้นภาษี 35% ได้ลดหย่อนเหมือนรัฐให้ส่วนลด 35 บาทจากทุก 100 บาทที่ลงทุน แต่คนรายได้กลาง-ล่าง ได้ส่วนลดเพียง 5-15 บาท กลไกแบบนี้เป็นสิ่งที่เรามองว่าปกติและเป็นที่คุ้นเคยกันมานานแต่ในความจริงกลับขยายความเหลื่อมล้ำโดยไม่ตั้งใจและไม่ส่งแรงจูงใจไปยังกลุ่มที่ควรได้รับการส่งเสริมการออม”

อธิภัทร ยังกล่าวเสริมในโพสต์ของเขาว่า “ระบบใหม่นี้ยังไม่สมบูรณ์แบบ และมีจุดอ่อนที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้กระทบต่อกลุ่มผู้มีรายได้เกิน 1.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นเดอะแบกของระบบภาษี” และ “เพื่อไม่ให้คนรายได้เกิน 1.5 ล้าน เจ็บตัวฟรี การปรับสิทธิลดหย่อนเพื่อการออมไม่ควรจบแค่ตรงนี้ แต่ควรเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปสิทธิประโยชน์ทางภาษีทั้งระบบ เพื่อให้คนที่อยู่ในระบบภาษีรู้สึกว่า รัฐเห็นคุณค่า และให้เกียรติการมีส่วนร่วมของพวกเขาอย่างแท้จริง”

มนุษย์เงินเดือน ต้องวางแผนภาษียังไง?

เมื่อนโยบายใหม่เข้าสู่ครม. ในวันนี้ มนุษย์เงินเดือนหลายคนก็อาจสงสัยว่าจะวางแผนภาษียังไงต่อไปดี แน่นอนว่าสูตรการคำนวณภาษียังเหมือนเดิม คือ

เงินได้พึงประเมิน – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อนต่าง ๆ = เงินได้สุทธิเพื่อเสียภาษี

แต่ถ้าต้องเจอสูตรใหม่ TISA จะคำนวณลดหย่อนไม่เหมือนเดิม เช่น

- ผู้มีเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 1.5 ล้านบาท/ปี สามารถลดหย่อนได้ 1.3 เท่า

ลงทุนในโครงการ TISA 10,000 บาท จะนำมาลดหย่อนได้ 13,000 บาท

- ผู้มีเงินได้พึงประเมินเกินกว่า 1.5 ล้านบาท/ปี สามารถลดหย่อนได้ 0.7 เท่า

ลงทุนในโครงการ TISA 10,000 บาท จะนำมาลดหย่อนได้ 7,000 บาท

เรียกว่าคนเคยลดหย่อนภาษีไว้แบบไหน ก็ต้องวางแผนใหม่ โดยต้องติดตามเงื่อนไขต่าง ๆ ในการจ่ายและลดหย่อนภาษี ที่จะออกมาบังคับใช้จริง เพื่อรักษาสิทธิทางภาษีของเรา


อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ