
“หนี้นอกระบบ” หนึ่งในปัญหาที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน แม้หลายคนรู้ว่าต้องเจอกับดอกเบี้ยแพง แต่หลายคนก็ยอมแลกเพื่อให้ได้เงินมา เพราะเข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบหรือสินเชื่อธนาคาร
ว่าแต่สาเหตุที่คนไทยต้องพึ่งหนี้นอกระบบคืออะไร และการแก้ปัญหาเรื่องนี้ต้องเริ่มจากตรงไหน
ถ้าถามว่าคนไทยมีปัญหาหนี้นอกระบบ เข้าถึงสินเชื่อยากมากแค่ไหนนั้น ลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เล่าว่า ปัจจุบันในไทยมีครัวเรือนกว่า 30% ยังอยู่ในกลุ่มเข้าไม่ถึงบริการของธนาคารพาณิชย์ (Unserved) และกลุ่มที่เข้าถึง แต่ยังได้รับบริการไม่เพียงพอ (Underserved) ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้มักเป็นผู้มีรายได้น้อย หรือรายได้ไม่แน่นอน ทำให้เข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ยาก และต้องหันไปหนี้นอกระบบ
ด้าน ดร. โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ หรือ PIER เผยผลสำรวจของ PIER พบว่า คนต่างจังหวัดราว 67% ใช้บริการทางการเงินนอกระบบ แต่ยังมีข้อมูลจากศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดเผยว่า 37% ของคนในเมืองหลวงมีการกู้นอกระบบเช่นกัน
แต่สาเหตุที่คนต้องกู้นอกระบบมาจากอะไร? จากข้อมูลเหล่านี้สะท้อนว่า บางกลุ่มยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อ สาเหตุหลักเพราะ “การไม่มีประวัติเครดิต” ปกติเวลาธนาคารจะให้สินเชื่อต้องดูว่า ลูกหนี้มีประวัติเครดิตอย่างไร เคยมีสินเชื่อที่ไหนบ้าง ดังนั้นกลุ่มที่ไม่เคยมีประวัติทางการเงินเลย ธนาคารไม่เห็นข้อมูลในระบบเครดิตบูโร และอาจไม่ปล่อยสินเชื่อให้ คนกลุ่มนี้จึงต้องหันไปกู้นอกระบบแทน
ลภาวรรณ จากทางธนาคารออมสิน เล่าถึงความพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้ผ่านโครงการ “สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส” เป็นสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มอาชีพอิสระ ผู้มีรายได้ประจำ ลูกจ้าง พ่อค้า แม่ค้า ผู้รับจ้างให้บริการต่าง ๆ ที่มีรายได้ แต่ไม่เคยมีประวัติเครดิตทางการเงิน หรือไม่เคยใช้บริการสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินอย่างน้อย 2 ปี (กู้สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท/ราย ระยะเวลาคืนเงินกู้ไม่เกิน 1 ปี) ซึ่งเปิดตัวมาแล้วระยะหนึ่ง ปัจจุบันมีฐานข้อมูล 2.5 ล้านคน ให้สินเชื่อไปแล้วกว่า 200,000 ราย คิดเป็นเม็ดเงิน 2,000 ล้านบาท
ล่าสุดทางธนาคารออมสินร่วมมือกับสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ในการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของลูกหนี้ที่อยู่ในโครงการ “สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส” ซึ่งมีอยู่ราว 2.5 ล้านคน เพื่อศึกษาวิถีชีวิตและพฤติกรรมการใช้เงินของกลุ่มครัวเรือนฐานรากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการเงินในระบบได้ โดย PIER จะวิจัยข้อมูล 4 ด้าน ประกอบด้วย
1. สำรวจเจาะลึกว่า คนที่อยู่นอกระบบมีวิถีชีวิต มีรายได้จากทางไหน มีพฤติกรรม รวมถึงความต้องการทางการเงินแบบไหน
2. เมื่อเข้าใจปัญหาแล้ว จะมาร่วมออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงิน อาจรวมถึงการปล่อยสินเชื่อและมองหากลไกที่จะช่วยให้คนสามารถชำระหนี้ได้จริง
3. เก็บรวบรวมข้อมูลลูกหนี้ทั้งก่อนและระหว่างเข้าร่วมโครงการ เพื่อวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้และค้นหาปัจจัยชี้วัดคะแนนเครดิต (Credit Score) ที่เหมาะสม และค้นหาว่าข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) ชุดใดที่สามารถนำมาใช้ประเมินศักยภาพการชำระหนี้ได้จริง
4. ติดตามลูกหนี้ว่าหลังจากได้รับสินเชื่อไปแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้าง
นอกจากนี้ การแก้ปัญหาเรื่องหนี้ยังมีอีกหลายมิติ อย่าง วิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เล่าว่าช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเราทำโครงการแก้หนี้เพื่อปลดภาระและให้คนมีหนี้กลับมายืนได้ และยังมีโครงการที่ตั้งเป้าหมายให้ SME ที่กู้ ขอสินเชื่อได้ยาก สามารถกู้ได้ง่ายขึ้นผ่านกลไกการค้ำประกัน ซึ่งยังต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเห็นภาพชัดเจนในช่วงใด
สรุปง่ายๆ ภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ พยายามสร้างช่องทางใหม่ๆ ให้คนที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อ ไม่เคยมีประวัติเครดิตมาก่อน กู้ที่ไหนไม่ผ่านมาก็ให้ขอสินเชื่อจากครั้งแรกจากทางธนาคารออมสินไปและสร้างเครดิตให้ตัวเองด้วยการผ่อนชำระหนี้ตามกำหนดเวลา ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้การกู้เงินในระบบครั้งต่อๆ ไปง่ายขึ้น รวมถึงมีโครงการเพื่อช่วยเหลือคนที่เป็นหนี้เสียแล้วให้กลับมายืนได้อย่างมั่นคง
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney