โชว์เคส พอร์ตสร้างเงินถัง รองรับชีวิต "เกษียณ" แบบยืนยาว ที่นักวางแผน - นักลงทุน ชื่อดังแนะนำ

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

โชว์เคส พอร์ตสร้างเงินถัง รองรับชีวิต "เกษียณ" แบบยืนยาว ที่นักวางแผน - นักลงทุน ชื่อดังแนะนำ

Date Time: 14 พ.ย. 2568 16:20 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

การมีชีวิตยืนยาวถึง 100 ปี ทำให้ต้องวางแผนการเงินใหม่เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

  • หุ้นยังจำเป็น แต่ต้องเลือกหุ้นของธุรกิจที่เติบโตตามโครงสร้างประชากรใหม่และได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี
  • อสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่อยู่ยาวกว่าเราได้ และสามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income
  • การเตรียมเงินเกษียณต้องคำนึงถึงไลฟ์สไตล์และระยะเวลาที่คาดว่าจะใช้ชีวิตอยู่
  • Time-Segmentation Strategy เป็นกลยุทธ์แบ่งเงินเกษียณออกเป็น 4 ถัง เพื่อลดความเสี่ยงที่เงินจะหมดเร็วเกินไป

เมื่อการมีอายุถึง 100 ปี ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป คุณวางแผนให้เงินอยู่ยาวเท่าชีวิตแล้วหรือยัง? 

นี่เป็นคำถามสำคัญ ที่เกิดขึ้นใน งานสัมมนาประจำปีสมาคมนักวางแผนการเงินไทย (TFPA Wealth Management Forum 2025) ในเวทีเสวนา หัวข้อ : 100-Year Portfolio หยุดทำงาน ไม่หยุดทำเงิน ที่ชวนทุกคนลองนึกภาพ ตัวเองในวัย 90 ปี ยังเดินทางเที่ยวได้ มีเงินกินข้าวดีๆ เดือนละครั้ง ไม่กลัวค่ารักษา และไม่กลัวเงินหมดกลางทาง เพราะภาพนี้มีข้อมูลวิจัยระดับโลก ยืนยันว่า “มีความเป็นไปได้” เพราะในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า มนุษย์ยุคใหม่กำลังก้าวเข้าสู่ ยุคชีวิต 100 ปี 

ภายใต้เทคโนโลยีทางการแพทย์ ปัญญาประดิษฐ์ และนวัตกรรมสุขภาพที่ก้าวกระโดด อายุเฉลี่ยของมนุษย์กำลังขยับยาวขึ้น แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่ไทย มีโอกาสขึ้นแท่นอยู่ในลิสต์ ประเทศที่มีประชากรอายุ 100 ปี มากที่สุด และนี่จึงกลายเป็นความจริง ที่เราต้องตั้งคำถามใหม่กับชีวิตว่า…

ถ้าเราไม่ได้เกษียณที่อายุ 60…แต่ต้องใช้เงินถึงอายุ 100 ปี หรือ มากกว่านั้น ต้องวางแผนการเงิน หรือ ต้องลงทุนอย่างไร ? 

ซึ่งในเวทีนี้ ทั้งนักวางแผนการเงิน นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญอสังหาฯ ล้วนให้มุมมองโฟกัสไปในทิศทางเดียวกันว่า...ถ้าเราไม่ได้เกษียณที่อายุ 60…แต่ต้องใช้เงินถึงอายุ 100 ปี หรือ มากกว่านั้น ต้องวางแผนการเงิน หรือ ต้องลงทุนอย่างไร ? มาดูกันทีละมุม ว่า “พอร์ต 100 ปี” หน้าตาควรเป็นอย่างไร


หุ้นยังจำเป็น แต่ต้องลงทุนแบบโลกที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

หนึ่งในเสียงที่ทุกคนตั้งใจฟังมากที่สุด คือ มุมมองของ “ทิวา ชินธาดาพงศ์”  นายกสมาคมนักลงทุนไทย ผู้เปิดประเด็นสำคัญว่า ถ้าเรากำลังจะมีชีวิตยาว 100-120 ปีจริง…เงินของเราจะยืนระยะไปด้วยได้แค่ไหน?

เขาชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันมีคนไทยอายุเกิน 100 ปีแล้ว กว่า 40,000 คน และจำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยพลังของเทคโนโลยีการแพทย์ ปัญญาประดิษฐ์ และนวัตกรรมสุขภาพที่กำลังก้าวกระโดดแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนคำถามที่หลายคนสงสัยคือ แล้วหุ้นยังเป็นคำตอบของการเกษียณอยู่ไหม ในโลกที่กำลังเปลี่ยนไปขนาดนี้?

“ทิวา” อธิบายว่า หุ้นเคยสร้างผลตอบแทนดีในอดีต เพราะโลกโต ประชากรเพิ่ม ความต้องการสินค้าและบริการขยายตัวต่อเนื่อง แต่โลกข้างหน้า ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

เขายกภาพให้เห็นชัดว่า ในอีก 50 ปีข้างหน้า มีการคาดการณ์ว่า ประชากรไทยอาจ “เหลือเพียงครึ่งเดียว” และไม่ใช่แค่ไทยเท่านั้น เพราะประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ภาวะหดตัวเช่นกัน

เมื่อโลกโตช้าลง ธุรกิจที่ต้องอาศัย “จำนวนคน” จะเติบโตยากขึ้น ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีและ AI กำลังสร้างผู้ชนะ ผู้แพ้หน้าใหม่ แบบที่สูตรลงทุนเดิมอาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป

ดังนั้น ถ้าอยากให้เงินอยู่กับเราไปถึง 90-100 ปี เราต้องมองหุ้นในอีกมุมหนึ่ง…ไม่ใช่หุ้นอะไรก็ได้ แต่เป็นหุ้นของธุรกิจที่ “เติบโตตามโครงสร้างประชากรใหม่” และ “ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี” ได้แก่

  • เซมิคอนดักเตอร์และอุตสาหกรรมชิป
  • AI และคลาวด์
  • เทคโนโลยีสุขภาพและการแพทย์
  • ความปลอดภัยไซเบอร์
  • เทคโนโลยีอายุยืน (Longevity Tech)

นี่คือโลกใหม่ของการลงทุน ที่ไม่ใช่การซื้อหุ้นเพราะ “เห็นโตมา 20 ปี” แต่ต้องมองว่า “อีก 20 ปีจากนี้ ใครจะยังโต?” และเพราะชีวิตที่ยาวขึ้น เท่ากับค่าใช้จ่ายที่ยาวขึ้น “ทิวา” ประเมินว่า ถ้าหากเราต้องใช้ชีวิตยาวนาน อาจต้องมีเงินรองรับราว “1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ”ว่าเป็นระดับฐานที่ทำให้ชีวิตยาว 100 ปี ในแบบอยู่ได้อย่างสบาย ไม่ต้องกลัวเงินหมดกลางทาง

สูตรสร้าง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ก่อนเกษียณ

ให้ลงทุนหุ้นประมาณ 2ใน3 ของพอร์ตเพื่อให้พอร์ตเติบโตเร็วพอชนะเงินเฟ้อในโลกที่ค่าครองชีพพุ่งต่อเนื่อง

หลังเกษียณ

ทยอยลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือประมาณ 1ใน3 และกระจายอีก 2ใน3 ไปยังสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำลง เช่น

  • ตราสารหนี้
  • อสังหาริมทรัพย์
  • บริการสมาชิกระยะยาว เช่น บ้านพักผู้สูงอายุ ประกันสุขภาพ หรือระบบ Subscription แบบต่าง ๆ ที่ช่วย “ล็อกความมั่นคงของชีวิต”

ทั้งนี้ ตัวเลข 1-3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 32–97 ล้านบาท) อาจฟังดูสูง แต่ “ทิวา” ย้ำว่า นี่ไม่ใช่ความหรูหราแต่มันเป็น “ตัวเลขปกติ” เมื่อเราอยู่ในโลกที่ชีวิตยาวขึ้น 20-30 ปี เพราะถ้าชีวิตยาว…ค่าใช้จ่ายก็ยาวตามไปด้วย

อสังหาฯ สินทรัพย์ที่อยู่ยาวกว่าเรา และโตตามวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

หลังจากภาพใหญ่เรื่อง “หุ้น” ได้สะท้อนให้เห็นว่า โลกใหม่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อีกหนึ่งมุมที่ถูกพูดถึงอย่างเข้มข้นไม่แพ้กัน คือ “อสังหาริมทรัพย์” ซึ่ง 

“ธวัชชัย ทวีถาวรสวัสดิ์” ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาฯ เปิดประเด็นไว้อย่างน่าสนใจว่า แม้ตลาดอสังหาฯ ไทยช่วงนี้จะดูนิ่ง และอาจซบเซาในรอบ 20–30 ปี แต่สำหรับคนที่วางแผนระยะยาวถึง 80-100 ปี นี่อาจเป็น “โอกาสครั้งใหญ่” ที่ซ่อนอยู่

เขาชวนทุกคนตั้งต้นใหม่ว่า ถ้าเราจะมีชีวิตยืนถึงร้อยปีจริง ๆ “บ้าน” และ “ที่ดิน” คือสินทรัพย์ไม่กี่ประเภทที่อยู่ยาวกว่าเราได้ และยังมีคุณสมบัติที่สินทรัพย์ทางการเงินอื่นเลียนแบบได้ยาก เช่น ความทนทานต่อเงินเฟ้อ การเติบโตตามไลฟ์สไตล์เมือง และการสร้างรายได้แบบ Passive Income ที่เป็นกอบเป็นกำในระยะยาว

แต่ทั้งหมดนี้…จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเรา ไม่มี “เงิน” ก้อนแรกมากพอ ที่จะเข้าถึงสินทรัพย์เหล่านี้ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่คนวางพอร์ต 100 ปี ต้องคิดให้ลึกตั้งแต่วันนี้

แต่การลงทุนอสังหาฯ ยุคนี้ไม่ใช่การซื้ออะไรแล้ว “ปล่อยให้มูลค่าเพิ่มไปเอง” แบบสมัยก่อนอีกแล้ว ผู้ลงทุนต้องคิดเป็นระบบมากขึ้น ตั้งแต่ชนิดของอสังหาฯ ทำเล สภาพคล่อง ไปจนถึงกระแสเงินสดจริงที่เกิดขึ้น

“ธวัชชัย” แนะนำว่า การจะเลือกอสังหาฯ ให้เหมาะกับ “พอร์ตยาว 100 ปี” ต้องเข้าใจ 3 มิติหลักในการวิเคราะห์ ได้แก่

  1. ประเภทและทำเล – คอนโดใกล้มหาวิทยาลัย บ้านเช่าใกล้นานาชาติ หรือพูลวิลล่าในเมืองท่องเที่ยว แข่งขันต่างกันมาก
  2. กระแสเงินสด (Cashflow) – ซื้อแล้วมีกระแสเงินสดบวกตั้งแต่ปีแรก หรือว่าต้องอัดเงินเพิ่ม?
  3. Value Added – การต่อยอดมูลค่า เช่น รีโนเวต การทำระบบบริหารจัดการเพื่อดึงลูกค้าเพิ่ม

และที่สำคัญที่สุด คือ “ต้นทุนแฝง” ที่คนส่วนใหญ่ประเมินต่ำไปเสมอ ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมบำรุง (Maintenance), ค่าเสื่อม, ต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้, ภาษี และแนวโน้มการเติบโตของทำเล หากผิดเพียงข้อเดียว ภาพกำไรทั้งก้อนอาจหายไปทันที

ทำเลอสังหาฯ ที่ชนะในเกมระยะยาว 100 ปี

เวทีเสวนายังชี้ให้เห็นว่า ทำเลบางประเภทเริ่มโดดเด่นขึ้นมาในเกมระยะยาว โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวและการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เช่น

  • พูลวิลล่า ในทำเลเมืองท่องเที่ยวใกล้สนามบิน เช่น ภูเก็ต พัทยา บางแสน
  • บ้านเช่าใกล้โรงเรียนนานาชาติ ซึ่งมีดีมานด์คงที่
  • คอนโดใกล้มหาวิทยาลัย Top 5 ที่มีความต้องการเช่าทุกปี
  • โซนอุตสาหกรรมและพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะใน EEC

นี่คือทำเลที่ไม่ได้เด่นเพราะ “ฮิต” แต่เด่นเพราะตอบโจทย์โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ของไทยได้อย่างยั่งยืน


กรณีศึกษา: พอร์ตอสังหาฯ ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ชีวิตถึง 100 ปี

หนึ่งในกรณีศึกษาที่ถูกหยิบยกขึ้นมา คือ “กันต์” ชายอายุ 54 ปี ที่ตั้งเป้าเกษียณในอีก 11 ปีข้างหน้า พร้อมต้องการมีรายได้หลังเกษียณอย่างน้อยเดือนละ 80,000 บาท

นักวางแผนเสนอว่า พอร์ตอสังหาฯ ที่เหมาะกับกันต์ ควรประกอบด้วยสินทรัพย์ที่สร้างรายได้สม่ำเสมอ เช่น

  • พูลวิลล่าในบางแสน พัทยา ภูเก็ต
  • บ้านเช่าใกล้โรงเรียนนานาชาติ
  • คอนโดในทำเลมหาวิทยาลัยหลัก

โดยอิงจากข้อมูลผลตอบแทนจริง พบว่า…

บางแสน

  • โครงการราคา 6 ล้าน ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 8.45%
  • โครงการระดับ 15 ล้าน ให้ผลตอบแทนสูงถึง 13.69%

พัทยา

  • โครงการราคา 10 ล้าน ให้ผลตอบแทนราว 12.99%
  • โครงการระดับ 30 ล้าน ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 11.81%


ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนชัดเจนว่า “ทำเล” และ “ระดับราคา” ส่งผลมหาศาลต่อผลตอบแทน และยิ่งเป็นสินทรัพย์ที่อยู่ระยะยาว 20–30 ปี ความต่างเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ในวันนี้ จะสะสมกลายเป็นผลลัพธ์ที่ต่างกันแบบเท่าตัวในอนาคต

อสังหาฯ จึงไม่ได้เป็นแค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็น “เครื่องจักรผลิตรายได้” ที่สามารถประคองชีวิตให้มั่นคงได้ตลอดร้อยปี ถ้าเลือกให้ถูก และจัดพอร์ตให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความเสี่ยงของตัวเราเอง


แล้วเราต้องมีเงินเท่าไหร่ ถึงจะอยู่ได้ยาวถึง 100 ปี?

หลังจากมองภาพ “พอร์ตยาว 100 ปี” ในมุมของหุ้นและอสังหาฯ แล้ว อีกหนึ่งคำถามที่ใหญ่ไม่แพ้กันคือ แล้วตัวเลขจริง ๆ ที่เราต้องเตรียม ณ วันที่เกษียณคือเท่าไหร่?

นี่คือส่วนที่ “ณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ CFP®” Head of Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เข้ามาเติมเต็มภาพทั้งหมดให้ชัดเจนขึ้นด้วยข้อมูลวิจัยระดับโลก และแบบจำลองด้านการเงินเพื่อชีวิตที่ยืนยาวขึ้นของมนุษย์

“ณัฐกฤติ” สะท้อนว่า ภายใต้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ ปัญญาประดิษฐ์ และนวัตกรรมด้านสุขภาพมนุษย์กำลังเข้าสู่ยุคที่มีอายุยืนถึง 100-120 ปีอย่างมีนัยสำคัญ

เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพอย่างเป็นระบบ ณัฐกฤติแปลงข้อมูลเชิงเทคนิคออกมาเป็น “ตารางคำนวณเงินที่ต้องเตรียมไว้ ณ อายุ 60 ปี” ตามไลฟ์สไตล์และระยะเวลาที่คาดหวังจะมีชีวิตอยู่ โดยมีสมมติฐานสำคัญ คือ ผลตอบแทนหลังหักเงินเฟ้อ = 1% ต่อปี


จะเห็นจุดสำคัญ คือ อายุยืนขึ้นเพียง 10–15 ปี แต่เงินที่ต้องเตรียม “เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด”

“ณัฐกฤติ” ชี้ว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของคนไทยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 27,000 บาท/เดือน และมีแนวโน้มพุ่งขึ้นถึง 50,000 บาท/เดือน ในอนาคต จากโครงสร้างเงินเฟ้อและค่าครองชีพใหม่ นี่คือสัญญาณชัดเจนว่า “การมีชีวิตยืนยาวขึ้น” ไม่ได้เพิ่มภาระเพียงเล็กน้อย แต่เปลี่ยนเกมการเงินทั้งระบบของชีวิตหลังเกษียณ

ความเสี่ยงที่ทำให้เงินหมดก่อน 90 ปี ความเงียบที่อันตรายที่สุด

แม้เราจะเตรียมเงินตามแผนมาอย่างดี แต่มีความเสี่ยงสำคัญที่คนส่วนใหญ่ “ประเมินต่ำไปมาก” ได้แก่ ความเสี่ยงของกระแสเงินสด (Cashflow Risk), ความผันผวนของตลาด (Market Volatility) และลำดับของผลตอบแทน (Sequence of Returns Risk)

เพราะถ้าปีแรก ๆ หลังเกษียณ ตลาดปรับตัวลง และเราต้องถอนเงินมาใช้เงินจะหมดก่อนเวลา แม้เราจะเตรียมตามแผนที่ถูกต้องทุกอย่างแล้วก็ตาม

ณัฐกฤติย้ำว่า หลังเกษียณ “เราไม่มีรายได้ใหม่เข้ามาอีก” ทุกบาทที่ถอนออกมา คือเงินต้นที่ลดลงอย่างถาวร ดังนั้นการบริหารพอร์ตหลังเกษียณจึงสำคัญอย่างยิ่ง

วิธีแก้ที่ชัดเจนที่สุด Time-Segmentation Strategy คือ กลยุทธ์แบ่งเงินเกษียณออกเป็น 4 ถัง ตามช่วงเวลาใช้งาน

นี่คือกลยุทธ์ที่ใช้กันในต่างประเทศมานาน และเหมาะกับยุคอายุยืนอย่างแท้จริง เพราะช่วยลดความเสี่ยงที่เงินจะหมดเร็วเกินไป

 1. ถังที่ 1 – เงินฉุกเฉิน (ใช้ 12 เดือนแรก)

  • เน้นความปลอดภัย 100%
  • ฝากออมทรัพย์ และกองทุนตลาดเงิน

2. ถังที่ 2 – เงินใช้จ่าย 1–3 ปีถัดไป

  • ใช้ในปีที่ 2–3 หลังเกษียณ
  • ตราสารหนี้ระยะสั้น/กลาง และกองทุนตลาดเงิน

3. ถังที่ 3 – เงินสำรองระยะกลาง (ใช้ 3–7 ปีถัดไป)

  • ใช้เพื่อเติมถังระยะสั้นในอนาคต
  • รับความเสี่ยงปานกลาง เช่น ตราสารหนี้ระยะกลาง–ยาว หุ้นกู้คุณภาพดี กองทุนผสม

 4. ถังที่ 4 – เงินระยะยาว (ใช้หลัง 7 ปีขึ้นไป)

  • เพื่อสู้เงินเฟ้อในระยะ 20–30 ปี
  • ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงขึ้น เช่น หุ้น กองทุนธีมเมติก อสังหาฯ หรือสินทรัพย์สร้างกระแสเงินสดระยะยาว

สรุป ชีวิตยืนยาวขึ้นไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้าเราวางพอร์ตให้ทำงานแทนเรา เวทีเสวนานี้ จึงทำให้ภาพของ “พอร์ต 100 ปี” สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จากหุ้น , อสังหาฯ และ มิติของตัวเลขจริงที่ต้องเตรียม รวมไปถึง วิธีจัดเงินให้ยืนระยะ ซึ่งทั้งหมดสะท้อนมุมเดียวกันว่า การเกษียณไม่ได้จบที่ 60 ปีอีกต่อไป แต่เป็นการจัดการพอร์ตให้ทำงานตลอดอีก 40 ปีหลังจากนั้นนั่นเอง 

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https:// www.facebook.com/ThairathMoney



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ