จากเขมจิราต้องรอด สู่บทเรียนการเงินของ “เก่ง-หฤษฎ์” “น้ำปิง-นภัสกร” สร้างรายได้ ปลดหนี้ให้ครอบครัว

กระแสซีรีส์ ‘เขมจิราต้องรอด’ ที่มีนักแสดงนำอย่าง “เก่ง-หฤษฎ์ บัวย้อย” และ “น้ำปิง-นภัสกร ปิงเมือง” ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่ง 2 คนนี้ไม่ได้เก่งแค่เรื่องการแสดง แต่มีแนวคิดเรื่องเงินที่น่าสนใจและปรับใช้ในชีวิตจริงได้ด้วย

‘เก่ง-น้ำปิง’ ชีวิตกับการเงินเป็นเรื่องเดียวกัน

หลายคนอาจคิดว่าถ้าได้เป็นนักแสดง ทั้งชีวิตและการเงินต้องเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบอยู่แล้ว แต่ใครจะรู้ว่า เก่ง-หฤษฎ์ และ น้ำปิง-นภัสกร กว่าจะเดินมาถึงจุดนี้พวกเขาเริ่มคิดและวางแผนเรื่องเงินตั้งแต่อายุยังน้อย ยิ่งตอนนี้มีรายได้จากการเป็นนักแสดงที่ซีรีส์ฮิตติดตลาด เขายิ่งต้องรอบคอบและมองให้ไกลยิ่งขึ้น

Thairath Money สรุป 5 มุมมองเรื่องการเงินที่น่าสนใจของทั้ง 2 คนมาไว้ที่นี่แล้ว

1. เก่ง-หฤษฎ์ กับเทคนิคประหยัดที่ทำได้จริง

ครั้งหนึ่ง เก่ง-หฤษฎ์ เคยเล่าว่า สมัยเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ที่จังหวัดพะเยานั้น เขาใช้เงินเพียง 3,000 บาท ให้อยู่ได้นานเกือบ 2-3 เดือน เพราะเขานำข้าวสารจากบ้านมาหุงกินเอง ส่วนมื้ออาหารนอกบ้าน จะเน้นอาหารราคาคุ้มค่าจากโรงอาหารตกมื้อละ 25 บาท และอาจจะซื้อกับข้าวจากร้านนี้กลับไปกินในมื้อเย็นด้วย ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก

จากนิสัยประหยัดอดออมในวัยเรียน ก็ติดตัวมาจนปัจจุบัน ทุกวันนี้ถึงเป็นนักแสดงแล้ว เขาก็เน้นกินข้าวที่กองถ่ายจัดเตรียมไว้ให้ และเดินทางด้วยรถของออฟฟิศ

2. อยากปลดหนี้ต้องเปิดใจคุยกับครอบครัว

อีกบทเรียนจาก เก่ง-หฤษฎ์ หรือพ่อครูของเราคือ เขาเคยตั้งภารกิจการปลดหนี้ 1.5 ล้านบาทของครอบครัว สิ่งสำคัญที่สุดคือการเปิดใจคุยกับครอบครัวว่ามีหนี้สินทั้งหมดเท่าไหร่

แม้ช่วงแรกจะไม่รู้ว่าจะปลดหนี้ได้เมื่อไร แต่เขาก็เน้นทำงานทุกอย่างตั้งแต่รับจ้างกรีดยาง หรือกลับไปเป็นครูเพื่อหารายได้เพิ่ม ต่อมาเมื่อมีรายได้มากขึ้นเขาเลือกนำเงินก้อนแรกจากการทำงาน 50,000 บาท มอบให้กับพ่อแม่เพื่อปลดหนี้ จนถึงตอนนี้เขาสามารถเคลียร์หนี้หลักล้านนั้นได้แล้ว

3. หารายได้เสริม

ด้าน น้ำปิง-นภัสกร เขาเล่าถึงประสบการณ์ชีวิตช่วงที่ต้องเจอกับวิกฤติโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องอยู่แต่ในบ้าน น้ำปิงมองว่า นี่เป็นโอกาสในการทำธุรกิจและหารายได้เสริม เขาเริ่มทำนมสดมะม่วงและนมสดสตรอว์เบอร์รีออกขายในช่องทางโซเชียลมีเดีย เขาเรียนรู้ทั้งการเสนอขายสินค้า รับออเดอร์ด้วยตัวเอง ถึงจะเป็นรายได้เสริมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็เป็นอีกบทเรียนการเงินที่เขาได้เรียนรู้และปรับใช้กับชีวิตทุกวันนี้

4. กล้าลองเรื่องใหม่ๆ และใช้ทุกความสามารถมาสร้างเงิน

น้ำปิง-นภัสกร ถือเป็นคนที่ไม่หยุดนิ่ง เพราะเขาลองหลายทางเพื่อสร้างรายได้ใหม่ๆ อยู่เสมอ หนึ่งในนั้นคือการไลฟ์สดรับวาดรูปตามสิ่งที่เขาถนัดอยู่แล้ว ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยเขาก็ทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดย 1 รูปวาดของเขาจะได้รับสติ๊กเกอร์หมีที่มีราคา 59 บาท แต่ละวันน้ำปิงตั้งเป้าหมายว่าอยากรับงานวันละ 10-20 รูป (ราว 590-1,180 บาท/วัน) เพื่อเป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่ง

5. ก่อนอายุ 30 ปีชีวิตต้องมั่นคง

เทรนด์เกษียณเร็วมาแรงแล้ว แต่คนอยากมีความมั่นคงตั้งแต่อายุยังน้อยอาจมีมากกว่า ซึ่งรวมถึง เก่ง-หฤษฎ์ และ น้ำปิง-นภัสกร ที่เปิดเผยถึงเป้าหมายชีวิตว่า ก่อนอายุ 30 ปี พวกเขาต้องการสร้างความมั่นคงให้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการมีบ้าน รถ รวมไปถึงมีเงินเก็บออม

แม้ว่าปัจจุบันอาชีพหลักของพวกเขาทั้งคู่คือการเป็นนักแสดง แต่เก่งและน้ำปิงต่างวางแผนที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเองควบคู่กับการทำงานในวงการต่อไป และอยากสร้าง Passive Income เอาไว้ด้วย แต่ถ้าเราดูลึกถึงเบื้องหลังคำว่าความมั่นคงของพวกเขา เราจะเห็นสิ่งที่เขาอยากทำให้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมาย การส่งน้องสาวเรียนมหาวิทยาลัยจนจบ รวมไปถึงดูแลครอบครัวให้อยู่อย่างสบายในวัยเกษียณ

เคล็ดลับการเงินทั้ง 5 ข้อของ 2 นักแสดงวัยยี่สิบต้นๆ อาจเป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนเริ่มวางแผนการเงิน โดยเริ่มจากเรื่องเล็กๆ และสิ่งที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเงินของเรา “รอด” ไปตลอดรอดฝั่ง

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney