
เคยรู้สึกไหมว่า เงินเดือนเข้ามาไม่ทันไรก็หายวับไปราวกับสายน้ำไหล? หามาเท่าไหร่ก็หมดไปกับการใช้หนี้ จนแทบไม่เหลืออะไรไว้ให้หายใจหายคอ ความรู้สึก “หนี้ท่วมหัว” ไม่ได้ทำร้ายแค่กระเป๋าเงิน แต่ยังบั่นทอนทั้งสุขภาพกายและใจแบบไม่รู้ตัว
ความจริงคือ…การมีหนี้ ไม่ใช่เรื่องผิด บางคนจำเป็นต้องกู้ยืมเพราะภาระครอบครัวหรือต้องลงทุนในชีวิต แต่ปัญหามักเริ่มขึ้นเมื่อเรา “แก้ผิดวิธี” ยืมใหม่เพื่อโปะเก่า ใช้จ่ายเกินตัวเพื่อให้ทันเทรนด์ หรือหวังรวยทางลัดจนกลายเป็นวงจรที่ยากจะหลุดพ้น
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ากำลังตกอยู่ในหนี้ที่ “ครองชีวิต” เราไปแล้ว? ในบทความนี้ Thairath Money ชวนมาสำรวจพฤติกรรม ก่อให้เกิดหนี้ พร้อมแก้ปัญหาให้ถูกจุด
ลองเช็กดูว่าคุณ (หรือคนใกล้ตัว) กำลังเจออาการเหล่านี้หรือไม่
หนี้ไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ แต่หลายครั้งมาจาก ไลฟ์สไตล์ และ ความคิดที่ไม่ระวัง เช่น
การจัดการเรื่องเงินสำคัญ แต่การดูแล ใจ ก็สำคัญไม่แพ้กัน
หรือ ถ้าความเครียดหนักจนไม่ไหว อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา หรือโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรี 24 ชั่วโมง
ท้ายที่สุด การยอมรับว่าตัวเอง “มีหนี้” อาจเป็นเรื่องยาก แต่การยอมรับว่า “เรามีปัญหาหนี้” ยากยิ่งกว่า ทว่าก้าวเล็ก ๆ นี้คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง เพราะหนี้ไม่ได้ทำลายชีวิตเราในวันเดียว แต่มันค่อย ๆ แทรกซึมในทุกมิติของชีวิต - การเงิน ความสัมพันธ์ และสุขภาพจิต การรู้เท่าทันอาการและหาสาเหตุที่แท้จริง จึงเป็นทางออกที่แท้จริง
อีกทั้งให้หมั่น สำรวจรายรับ รายจ่ายของตัวเอง ทำบันทึกการเงินในแต่ละเดือนว่ามีรายรับเท่าไหร่ รายจ่ายเท่าไหร่ เพราะเมื่อเห็นตัวเลขทั้งหมดจะทำให้รู้ว่าต้องบริหารจัดการเงินอย่างไร
ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น หากต้องซื้อของสักชิ้นให้คิดให้เยอะว่าเป็นของที่จำเป็น และซื้อมาแล้วคุ้มค่า รวมไปถึง การจัดลำดับการจ่ายหนี้ จดหนี้ทั้งหมดแล้วจัดลำดับการจ่ายหนี้ด้วยการจ่ายหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน แล้วไล่ระดับลงมา ไม่ว่าจะเป็นหนี้นอกระบบ หนี้บัตรกดเงินสด หนี้บัตรเครดิต เป็นต้น
ที่มา : ธนาคารกรุงไทย