พันธบัตรออมทรัพย์ จุดเริ่มต้นลงทุนความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ซื้อผ่าน “เป๋าตัง” ได้ 30 ก.ค.นี้

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

พันธบัตรออมทรัพย์ จุดเริ่มต้นลงทุนความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ซื้อผ่าน “เป๋าตัง” ได้ 30 ก.ค.นี้

Date Time: 24 ก.ค. 2568 16:55 น.

Video

อธิบายทีเดียวว่า ทำไมฟองสบู่ AI จะไม่แตกซ้ำรอยดอทคอม? | Digital Frontiers EP.51

Summary

พันธบัตรออมทรัพย์ เป็นตราสารหนี้ประเภทหนึ่งที่ออกโดยรัฐบาลผ่านกระทรวงการคลัง พูดง่ายๆ คือ รัฐบาล "กู้ยืม" เงินจากประชาชนผู้ซื้อพันธบัตร โดยผู้ซื้อมีสถานะเป็น "เจ้าหนี้" รัฐบาลเป็น "ลูกหนี้"

เร็วๆ นี้ กระทรวงการคลังจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อ “พันธบัตรออมทรัพย์” อายุ 10 ปี ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือผ่านธนาคารที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอีก 6 แห่งได้ แต่ก่อนจะไปซื้อ ลองมาศึกษาลักษณะของผลิตภัณฑ์การลงทุนนี้ก่อน

พันธบัตรออมทรัพย์ คืออะไร?

พันธบัตรออมทรัพย์ คือ ตราสารหนี้ประเภทหนึ่งที่ออกโดยรัฐบาลผ่านกระทรวงการคลัง เพื่อระดมทุนจากประชาชนทั่วไปและสถาบันการเงิน

พูดง่ายๆ คือ การที่รัฐบาล "กู้ยืม" เงินจากประชาชนผู้ซื้อพันธบัตร โดยผู้ซื้อจะมีสถานะเป็น "เจ้าหนี้" และรัฐบาลเป็น "ลูกหนี้"

แล้วรัฐบาลจะให้สัญญาว่าจะจ่ายผลตอบแทนในรูปแบบของ "ดอกเบี้ย" เป็นงวดๆ ตามที่กำหนด และจะจ่าย "เงินต้น" คืนเมื่อครบกำหนดอายุของพันธบัตร

เป็นการลงทุนแบบไหน?

พันธบัตรออมทรัพย์เป็นการลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะตัว ดังนี้

1. ความเสี่ยงต่ำ (Low Risk): ถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากมีรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย โอกาสที่จะไม่ได้รับเงินคืนจึงน้อยมาก

2. ผลตอบแทนสม่ำเสมอ (Fixed Income): ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอตามอัตราและเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

โดยจากข้อมูลล่าสุด พันธบัตรรุ่นที่เสนอขายมีการจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยอาจเป็นแบบคงที่ตลอดอายุโครงการ หรือเป็นแบบขั้นบันได (Stepped Interest) ที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับสูงขึ้นตามช่วงเวลาที่กำหนด

3. สภาพคล่อง (Liquidity): แม้ว่าพันธบัตรจะมีอายุยาว เช่น 10 ปี แต่ก็สามารถขายเปลี่ยนมือในตลาดรองได้ก่อนครบกำหนดหากผู้ลงทุนต้องการใช้เงินสด ซึ่งในปัจจุบันสามารถทำได้สะดวกผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" หลังจากถือครองครบ 6 เดือน

4. เข้าถึงง่าย (Accessibility): การลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก โดยบางรุ่นเปิดให้ลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาทเท่านั้น ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่าย

เหมาะกับนักลงทุนประเภทใด?

สำหรับผู้ที่เหมาะจะลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์ เช่น

ผู้ที่เริ่มต้นลงทุน: เนื่องจากเข้าใจง่ายและมีความเสี่ยงต่ำมาก

ผู้ที่ต้องการผลตอบแทนที่แน่นอน: เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้น และต้องการกระแสเงินสดรับที่สม่ำเสมอ

ผู้ที่ต้องการพักเงินหรือกระจายความเสี่ยง: เป็นแหล่งพักเงินที่ปลอดภัยและให้ผลตอบแทนดีกว่าการฝากออมทรัพย์ทั่วไป และยังช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้เป็นอย่างดี

ผู้ที่วางแผนการเงินระยะยาว: เช่น การออมเพื่อการเกษียณ หรือเป็นทุนการศึกษาบุตร เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่คาดการณ์ได้

เปิดขั้นตอนจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ สบม. ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.49% ต่อปี

ล่าสุด กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ประกาศเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 2 วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 รุ่น ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” วงเงิน 5,000 ล้านบาท และผ่าน 6 ธนาคารตัวแทนจำหน่ายวงเงิน 15,000 ล้านบาท เริ่มเสนอขายตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป

โดยพันธบัตรออมทรัพย์ทั้ง 2 รุ่นที่เสนอขายในครั้งนี้ เป็นพันธบัตรอายุ 10 ปี ให้ผลตอบแทนในรูปแบบอัตราดอกเบี้ยขั้นบันได มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 2.49% ต่อปี และมีการจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน มีรายละเอียดดังนี้

  • ปีที่ 1-3: อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.70 ต่อปี
  • ปีที่ 4-7: อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.40 ต่อปี
  • ปีที่ 8-10: อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.40 ต่อปี

ประเภทผู้ซื้อและเงื่อนไขการซื้อ

การจำหน่ายพันธบัตรครั้งนี้จำกัดสิทธิ์การซื้อสำหรับบุคคลธรรมดาเท่านั้น โดยแบ่งตามช่องทางการจัดจำหน่ายดังนี้

รุ่นที่ 1: พันธบัตรออมทรัพย์บนวอลเล็ต สบม. (ผ่านแอปฯ เป๋าตัง) วงเงิน 5,000 ล้านบาท

ผู้มีสิทธิ์ซื้อ: บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย และมีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ผู้ที่อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองที่ธนาคารกรุงไทยก่อน)

เงื่อนไขและข้อจำกัด: ลงทุนขั้นต่ำ 100 บาท และซื้อเพิ่มได้ครั้งละ 100 บาท และวงเงินซื้อสูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อคน และไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อครั้ง

วิธีการจัดสรร: จัดสรรแบบ "มาก่อนได้รับสิทธิ์ก่อน" (First-Come, First-Served)

รุ่นที่ 2: พันธบัตรออมทรัพย์ (ผ่าน 6 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย) วงเงิน 15,000 ล้านบาท

ผู้มีสิทธิ์ซื้อ: บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย

เงื่อนไขและข้อจำกัด: จองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และซื้อเพิ่มได้ครั้งละ 1,000 บาท ไม่จำกัดวงเงินซื้อขั้นสูง

วิธีการจัดสรร: จัดสรรแบบ "Small Lot First" ซึ่งจะทยอยจัดสรรพันธบัตรให้ผู้ซื้อทุกรายในรอบแรกก่อน แล้วจึงจัดสรรในรอบถัดไปจนครบวงเงิน ลำดับการจองไม่มีผลต่อการจัดสรร

ช่องทางการจำหน่าย

ผู้ที่สนใจสามารถเลือกลงทุนได้ทั้ง 2 ช่องทาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

พันธบัตรออมทรัพย์บนวอลเล็ต สบม. (รุ่น SBST357A):

  • ช่องทาง: จำหน่ายผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เท่านั้น
  • วันจำหน่าย: 30 กรกฎาคม – 7 สิงหาคม 2568
  • วิธีการ: ผู้ลงทุนต้องดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง จากนั้นเปิดใช้งานวอลเล็ต สบม. แล้วโอนเงินเข้าวอลเล็ตผ่าน Wallet ID หรือ QR PromptPay จาก Mobile Banking ของทุกธนาคาร เมื่อถึงวันจำหน่าย ให้เลือกรุ่นพันธบัตร ระบุจำนวนเงิน และยืนยันการชำระเงิน

พันธบัตรออมทรัพย์ (รุ่น SBST358A):

  • ช่องทาง: จำหน่ายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต, Mobile Application และเคาน์เตอร์ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
  • วันจองซื้อ: 4 – 6 สิงหาคม 2568

ความน่าสนใจและความคุ้มค่าในการลงทุน

พันธบัตรออมทรัพย์ชุดนี้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการออมและการลงทุน ด้วยเหตุผลดังนี้

  • ความเสี่ยงต่ำ: เป็นการลงทุนที่ออกโดยกระทรวงการคลัง มีความเสี่ยงต่ำและให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ
  • สภาพคล่อง: สำหรับผู้ที่ลงทุนผ่านวอลเล็ต สบม. สามารถขายต่อในตลาดรองผ่านแอปฯ เป๋าตังได้หลังถือครองครบ 6 เดือน โดยจะได้รับเงินทันทีและไม่มีค่าธรรมเนียม
  • เข้าถึงง่าย: การลงทุนเริ่มต้นเพียง 100 บาท (สำหรับรุ่นวอลเล็ต สบม.) ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่าย

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ