หวย VS หุ้น เสี่ยงเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ต่างกัน เปิดข้อมูล เทียบโอกาส อันไหนน่าซื้อกว่ากัน ?

วนมาอีกครั้ง! วันที่หลายคนเตรียมใจจดใจจ่อกับผลสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อหวังว่าจะมีโอกาสถูกรางวัล และรวยทางลัดในชั่วข้ามคืน แม้จะมีโอกาสน้อยมากก็ตาม

ในอีกด้านหนึ่งของโลกการลงทุน “หุ้น” ก็เป็นตลาดที่ขึ้นชื่อว่า “เสี่ยง” เช่นกัน ยิ่งในช่วงภาวะตลาดผันผวนหนักๆ ยิ่งสร้างความน่าหวั่นใจไม่ต่างอะไรจากการลุ้นหวย

แต่มีประเด็นที่น่าชวนคิดว่า ระหว่างการ “ซื้อหวย” กับการ “ลงทุนในหุ้น” ที่หลายคนมองว่า “เสี่ยง” เหมือนกันนั้น แท้จริงแล้วเส้นทางไหนที่จะนำพาไปสู่คำว่า “รวยจริง” ได้อย่างยั่งยืนกว่ากันในระยะยาว

หวย VS หุ้น เสี่ยงเหมือนกัน แต่ทำไมผลลัพธ์ต่างกัน?

หลายคนอาจมองว่าทั้งหวยและหุ้นคือการนำเงินไปเสี่ยงโชค แต่ในความเป็นจริง มิติของความเสี่ยงนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เพราะ “การซื้อหวย” คือ การเสี่ยงโชคแบบครั้งเดียวจบ เมื่อซื้อสลากหนึ่งใบ โอกาสที่จะพลิกชีวิตเป็นเศรษฐีในพริบตา กับโอกาสที่จะเสียเงินก้อนนั้นไปเลย มีความเป็นไปได้ทั้งคู่

ดังนั้น จะรวยหรือจะสูญ อาศัย “ดวง” เป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้ที่ซับซ้อน ความตื่นเต้นจะเกิดขึ้นเพียงเดือนละ 2 ครั้ง และเงินที่จ่ายไปก็กลายเป็นต้นทุนที่แทบไม่สามารถคาดหวังผลตอบแทนกลับมาได้เลย

ในทางกลับกัน “การลงทุนในหุ้น” แม้จะมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา แต่เป็นความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการ “เรียนรู้ ปรับตัว และเติบโต” ได้ตลอดเวลา ไม่ใช่การเสี่ยงแบบวัดดวงครั้งเดียวทิ้ง แต่เป็นการลงทุนใน “กิจการ” ที่มีพื้นฐาน มีการเติบโต และมีมูลค่าในตัวเอง

อาจกล่าวได้ว่า การเล่นหวยคือการเสี่ยงแบบ “ขอให้ฟลุค” ที่ต้องหวังพึ่งโชคชะตา ขณะที่การลงทุนในหุ้นคือการเสี่ยงอย่างมีหลักการเป็น “ความเสี่ยงที่ผ่านการวางแผนและมีโอกาสเติบโต” ในระยะยาว

เทียบชัดๆ 20 ปี “เส้นทางสายหวย” VS “เส้นทางสายหุ้น”

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ลองมาดูตัวอย่างนี้ เปรียบเทียบระหว่างเส้นทางสายหวย และเส้นทางสายหุ้น ในระยะเวลา 20 ปี

เส้นทางสายหวย

• เงินที่ใช้: 500 บาท/เดือน x 12 เดือน x 20 ปี = 120,000 บาท

• โอกาสถูกรางวัล: รางวัลที่ 1 ประมาณ 1 ใน 1,000,000 ต่อใบ (0.0001%)

• ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มากที่สุด: เงินต้นหายเกือบทั้งหมด แม้จะมีโอกาสถูกรางวัลย่อย แต่โดยรวมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานะทางการเงินได้อย่างมีนัยสำคัญ

เส้นทางสายหุ้น (ลงทุนแบบ DCA)

• เงินลงทุน: 500 บาท/เดือน x 12 เดือน x 20 ปี = 120,000 บาท

• สมมติว่าลงทุนในกองทุนดัชนีหรือหุ้นพื้นฐานดีที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยรวมที่ 8% ต่อปี ซึ่งสามารถหาได้ในตลาดทุน ใช้วิธีผลตอบแทนทบต้น

• ผลลัพธ์:  เงินเติบโตเป็นประมาณ 284,500 บาท (รวมดอกเบี้ยงวดสุดท้าย) คิดเป็นกำไรรวม 164,500 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนรวม 137%

แม้จะเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนเท่ากัน และใช้ระยะเวลาเท่ากัน แต่เส้นทางของ "การเสี่ยงโชค" นั้นทำให้เงินทุนลดลง ในขณะที่เส้นทางของ "การลงทุน" มีโอกาสสร้างผลตอบแทนและทำให้เงินงอกเงยขึ้นมาได้อย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง และผลตอบแทนในอดีตก็ไม่ได้การันตีอนาคต แต่ความเสี่ยงที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ความผันผวนของตลาด แต่คือการไม่ได้เริ่มต้นวางแผนการเงิน เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อเปลี่ยนจาก “ผู้ลุ้นโชค” ให้กลายเป็น “นักลงทุน” ที่สามารถสร้างอนาคตด้วยมือของตัวเอง

อ่านข่าวกับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney