
“เครียดก็เข้าวัด อกหักก็ทำบุญ” มีใครเป็นแบบนี้บ้างไหม?
การทำบุญกลายเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการบำบัดจิตใจของหลายคน เพราะคนไทยเติบโตมากับความเชื่อว่าหากทำความดีจะส่งผลให้ชีวิตของเราราบรื่น และเงินที่ทำบุญไปนั้นก็เป็นที่พึ่งพิงให้กับคนที่ต้องการความช่วยเหลืออีกด้วย
แต่การทำบุญด้วยการบริจาคนั้น ไม่ใช่แค่ดีต่อใจหรือช่วยสร้างโอกาสให้ผู้อื่น แต่ยังช่วยให้การเงินของเราดีเหมือน “ได้ขึ้นสวรรค์” เพราะเราสามารถนำการบริจาคเหล่านั้นไปลดหย่อนภาษีได้ เพื่อให้เราจ่ายภาษีน้อยลง และมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกร เผยว่า คนไทยบริจาคเพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษีรวมกว่า 5.5 หมื่นล้าน/ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้บริจาคเงินเพียงแค่อยากได้บุญเท่านั้น แต่ยังหวังว่าเงินทำบุญเหล่านั้นจะเป็นตัวช่วยให้การลดค่าใช้จ่ายสำหรับภาษีในแต่ละครั้งด้วย
ซึ่งการลดหย่อนภาษีถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากวางแผนจ่ายภาษีให้น้อยลง และมีเงินเหลือในการนำไปทำอย่างอื่นมากขึ้น โดยการลดหย่อนภาษีนั้นมีหลากหลายวิธี เช่น
สำหรับผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดาแล้วนั้น เงินบริจาคทั่วไป เช่น การบริจาคให้วัดวาอาราม สามารถหักลดหย่อนได้ตามจำนวนเงินที่บริจาค สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนภาษี, เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
ซึ่งการบริจาคเพื่อลดหย่อนภาษีนั้น จะทำได้เฉพาะกรณีที่บริจาคให้วัดในพระพุทธศาสนา และจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 หรือก็คือ "ต้องเป็นวัดที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น" ดังนั้นการบริจาคเงินทำบุญทอดกฐินให้วัดดังกล่าวก็สามารถลดหย่อนภาษีได้
ส่วนการบริจาคให้วัดที่ก่อตั้งขึ้นในต่างประเทศ หรือหากบริจาคเป็นทรัพย์สินให้แก่วัด จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนในการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้
นอกจากนี้ยังมีการบริจาคที่ทำให้เราได้ทั้งบุญ และได้ลดหย่อนภาษี 2 เท่าของเงินบริจาคจริงเพื่อการศึกษา การกีฬา และการพัฒนาสังคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ รวมไปถึงการบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ เช่น
และในกรณีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จะบริจาคเป็นเงินหรือทรัพย์สินก็ได้ เช่น บริจาคเงินให้แก่วัด หรือบริจาคทรัพย์สินให้แก่สถานศึกษา จะสามารถหักค่าใช้จ่ายตามที่บริจาคได้ แต่ไม่เกิน 2% ของกำไรสุทธิ
เพื่อรักษาสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีของตัวเองเอาไว้ เราต้องศึกษาข้อมูลเอาไว้ล่วงหน้าก่อนและวางแผนให้รอบคอบเพื่อที่จะได้ไม่พลาด โดยวิธีบริจาคที่ควรรู้ มี 4 ข้อ ดังนี้
1. ต้องตรวจสอบองค์กรผู้รับบริจาคก่อนทุกครั้ง เพราะบางสถานที่อาจไม่สามารถช่วยลดหย่อนภาษี และบางครั้งอาจเจอมิจฉาชีพมาหลอกให้เราโอนเงินให้ทั้งที่เป็นมูลนิธิปลอม
2. ขอหลักฐานการรับเงินบริจาคทุกครั้ง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการลดหย่อนภาษี เช่น ใบอนุโมทนาบัตร ซึ่งกระทรวงการคลังไม่ได้มีการกำหนดตัวอย่างรูปแบบของใบอนุโมทนาบัตรไว้อย่างตายตัว แต่อย่างน้อยควรจะมีข้อมูล ดังนี้
3. เก็บหลักฐานการบริจาคไว้ให้ดี อย่าเพิ่งลบมันออกจากโทรศัพท์หรือทิ้งมันลงขยะไป
4. อย่าลืมนำมันไปยื่นลดหย่อนภาษี เพื่อรักษาสิทธิ์ที่เราควรจะได้
ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดการลดหย่อนภาษีด้วยการบริจาค หรือตรวจสอบรายชื่อมูลนิธิสมาคมที่ลดหย่อนภาษีได้ที่ www.rd.go.th เพื่อให้การทำบุญของเรานั้นช่วยลดหย่อนภาษีได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน เพื่อที่จะลดค่าใช้จ่าย และมีเงินเหลือเก็บมากขึ้นหลังจากจ่ายภาษีตามหน้าที่ที่ผู้มีรายได้ทุกคนต้องทำ
ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกร, ตลาดหลักทรัพย์, FWD, เมืองไทยประกันชีวิต
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี" ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney