คนไทยรูดบัตรลดลง! แต่ ‘เซ็นทรัล เดอะวัน’ โตสวนกระแส ยอดใช้จ่ายครึ่งปีแรกโต 5% กวาด 6.24 หมื่นล้าน

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

คนไทยรูดบัตรลดลง! แต่ ‘เซ็นทรัล เดอะวัน’ โตสวนกระแส ยอดใช้จ่ายครึ่งปีแรกโต 5% กวาด 6.24 หมื่นล้าน

Date Time: 9 ก.ค. 2568 17:42 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

เซ็นทรัล เดอะวัน สร้างปรากฏการณ์! ยอดใช้จ่ายครึ่งปีแรกพุ่ง 6.24 หมื่นล้าน โตกว่า 5% สวนตลาดบัตรเครดิตซบเซา ตอกย้ำความสำเร็จจากการต่อสัญญา 8 ปี พร้อมเปิดตัวบัตรโฉมใหม่ดีไซน์มินิมอล ชูฟีเจอร์ "T1 Dynamic Points" มอบคะแนนพิเศษทุกวันที่ 15 ของเดือน ตั้งเป้าเจาะกลุ่ม First Jobber ดันยอดสมัครใหม่ 1 แสนบัญชีในปี 2568 ท่ามกลางการคุมเข้ม NPL ไม่ให้เกิน 3% สะท้อนคุณภาพสินเชื่อที่แข็งแกร่ง

บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ภายใต้กลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้รับการแต่งตั้งจากกลุ่มเซ็นทรัลให้เป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ต่อเนื่องไปอีก 8 ปี ตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ยาวนานกว่า 27 ปี นับตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งเริ่มต้นจากบัตรเซ็นทรัล คาร์ด ที่มีผู้ถือบัตรเพียง 15,000 ใบ และเติบโตมาเป็นบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ที่มีผู้ถือบัตรกว่า 900,000 ใบ และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงถึง 125,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567

อธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยว่า บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เป็นมากกว่าบัตรเครดิตร่วม โดยส่วนแบ่งตลาดของในปัจจุบันสูงถึง 5.5% ของตลาดบัตรเครดิต และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่เติบโต 3 เท่า เทียบกับปี 2560 การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่และการเปิดตัวบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวันโฉมใหม่ในครั้งนี้ จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ เพื่อสร้างสรรค์เพย์เมนต์ โซลูชั่นซึ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของลูกค้าได้ตรงใจยิ่งขึ้น และสร้างความเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับพันธมิตรหลัก

มอบคะแนนเดอะวันมากกว่าที่เคย ทุกวันที่ 15 ของเดือน

ชีวิน ปราชญานุพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวเสริมว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะจากประเด็นเรื่องภาษีและตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าอาจติดลบ อย่างไรก็ตาม บัตรของเซ็นทรัลยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่มีรายได้ปานกลางถึงสูง ทำให้ได้รับผลกระทบน้อย

ดังนั้น การปรับภาพลักษณ์ใหม่ของ บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ในครั้งนี้ เน้นดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่โดดเด่น ทันสมัย กระแสความมินิมอล ลดรายละเอียดในบัตรที่ไม่จำเป็นลง สะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ยิ่งขึ้น โดยมุ่งสร้างการรับรู้ถึงจุดยืนของแบรนด์ โดยการนำจุดแข็งจากการที่มีพันธมิตรหลักอย่าง Central Group และ  The 1 ซึ่งเป็น Loyalty Platform อันดับต้นของประเทศ มาสร้างสรรค์ฟีเจอร์ใหม่ “T1 Dynamic Points พอยท์แบบใหม่ที่ให้มากกว่า” มอบคะแนนเดอะวันมากกว่าที่เคย ทุกวันที่ 15 ของเดือน จึงถือได้ว่า บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน นับเป็นบัตรเครดิตใบแรกในประเทศไทยที่ให้คะแนนได้ในลักษณะนี้ 

ทั้งนี้มีออกแบบให้สามารถให้คะแนนพิเศษในแต่ละหมวดสินค้าหรือแบรนด์ที่คัดสรรมาว่ากำลังเป็นที่นิยมในช่วงนั้นๆ เพื่อตอบโจทย์และสร้างประสบการณ์การใช้จ่ายที่ดียิ่งขึ้นเพื่อสมาชิกบัตร  

นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์หลักเช่นเดิม เช่น คะแนน The 1 สูงสุด 4 เท่า, ส่วนลดสูงสุด 10% ทั้งกลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัล พร้อมเพิ่มสิทธิพิเศษที่โรงแรมในเครือ Centara และ SALA  

ตั้งเป้าเจาะกลุ่ม First Jobber

“บริษัท คาดว่า ภาพลักษณ์แบรนด์และสิทธิประโยชน์ที่โดดเด่นของบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน โฉมใหม่ ช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตร ให้สมาชิกใช้บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ในฐานะบัตรเครดิตหลักที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยขยายฐานลูกค้าของเราให้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยนอกจากกลุ่มลูกค้าเดิม ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มวัยทำงานที่มีรายได้สูงแล้ว บริษัทยังตั้งเป้าจะดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่  ที่มองหาบัตรเครดิตที่ให้สิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในครบครัน กลุ่มที่เริ่มมีเครดิตและกำลังมองหาบัตรแรกในชีวิต”  

ทั้งนี้ได้มีการตั้งเป้าภายในปี 2568 จะมียอดสมัครบัตรใหม่ 100,000 บัญชี โดยครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 40,000-45,000 ใบ และคาดว่าสิ้นปีจะแตะ 50,000 กว่าใบ รวมทั้งตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร 137,000 ล้านบาทเติบโต 10% เทียบกับปีที่ผ่านมา 

“อัตราการอนุมัติบัตรลดลงเล็กน้อย เหลือประมาณ 40-50% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทเข้มงวดในการคัดกรองลูกค้ามากขึ้น และมาตรการควบคุมหนี้ครัวเรือนของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ต้องการให้สถาบันการเงินมีความรับผิดชอบมากขึ้น ทำให้ต้องมีการคัดกรองตามเงื่อนไขต่างๆ”

คุม NPL ไม่ให้เกิน 3% 

ส่วนค่าใช้จ่ายผ่านบัตรต่อคน ต่อเดือน ลดลงเล็กน้อยจากประมาณ 14,000-15,000 บาท เหลือประมาณ 12,000 บาท แต่การ Active ของบัตรยังคงอยู่ที่ประมาณ 80% ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง ขณะที่ หนี้เสีย (NPL) ของบัตรเซ็นทรัล โดยรวมถือลดลงกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่คาดการณ์ไว้และไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อคุณภาพสินเชื่อ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าคุม NPL ไม่ให้เกิน 3%

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าส่วนใหญ่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ดีและได้รับผลกระทบน้อย นอกจากนี้พฤติกรรมการชำระเงินโดยปกติลูกค้าจะชำระขั้นต่ำที่ 8% ตามกฎหมายกำหนด แต่ลูกค้าของ Central The 1 Card ส่วนใหญ่ยังคงชำระยอดสูงกว่าขั้นต่ำมากถึง 30-40% ของยอดรวม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณภาพสินเชื่อที่ดี 

สำหรับภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปี 68 ชีวิน มองว่า เติบโตเป็นที่น่าพอใจ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2568 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน 62,400 ล้านบาทหรือเติบโต 5%  เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ร้านค้าในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ปนับว่าเติบโตได้ดี แม้ว่าภาพรวมตลาดบัตรเครดิตจะยังคงเหนื่อยก็ตาม แต่ยอดยังเป็นไปตามเป้า ส่วนกลุ่มท่องเที่ยวในต่างประเทศ ใช้จ่ายลดลง ยอดที่เพิ่มเข้ามาคือประกัน ขณะที่บัตรห้างยังไปต่อได้ แม้คนเดินห้างน้อยลง 

โดยหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรที่มียอดเติบโตสูงสุด 3 อันดับแรกในช่วงครึ่งปีแรก ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ได้แก่ 1.เซ็นทรัลออนไลน์ , 2.ร้านอาหารในเครือ CRG, 3.ไทวัสดุ สำหรับหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรอื่นๆนอกเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ที่เติบโตสูงสุด ได้แก่ 1.การเงินการลงทุน, 2.แพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์, 3. ประกันภัย 

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ