
ค่าครองชีพสูง แต่รายได้ไม่ขยับตาม อาชีพอิสระก็ไม่มั่นคง คนจำนวนไม่น้อยหลุดจากระบบการเงินโดยไม่รู้ตัว การขอกู้เงินจากธนาคารแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่มีเครดิต ไม่มีหลักประกัน
ท่ามกลางความเปราะบางทางเศรษฐกิจ และทางเลือกที่จำกัด “นาโนไฟแนนซ์” จึงเป็นคำตอบของคนตัวเล็กที่ต้องการเงินทุนในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ในไตรมาส 1 ปี 2568 นี้ ตลาดนาโนไฟแนนซ์เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยประมาณ 10% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจาก 3.5 ล้านบัญชี เป็น 3.8 ล้านบัญชี ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นจาก 59,000 ล้านบาท เป็น 66,000 ล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกัน
สะท้อนภาพการเติบโตของนาโนไฟแนนซ์ที่มีความก้าวกระโดดมากกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล
FINNIX แพลตฟอร์มสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อบุคคลแบบวงเงินหมุนเวียน พัฒนาโดย บริษัท MONIX ในเครือ SCBX ร่วมกับ Abakus ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2563
ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่ไม่มีหน้าร้าน ใช้ช่องทางดิจิทัลทั้งหมด และสามารถครองส่วนแบ่งตลาดนาโนไฟแนนซ์ประมาณ 20% เป็นอันดับ 2 ของตลาดโดยรวม และเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มผู้ให้บริการดิจิทัล
ถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มันนิกซ์ จำกัด (MONIX) เผยอินไซด์ผู้ใช้บริการ พบว่า
พฤติกรรมการขอกู้ยังชี้ให้เห็นว่า มากกว่า 60% ของลูกค้าใช้เงินกู้เพื่อหารายได้เสริม เช่น ซื้อของมาตุนมาขาย หรือซื้อวัตถุดิบเพื่อทำธุรกิจ ทำให้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์สำหรับคนไทยปัจจุบันนี้ ไม่ใช่เพียงเงินฉุกเฉิน แต่กลายเป็นเงินทุนหมุนเวียนของคนหาเช้ากินค่ำ
โดยตลอด 5 ปีของการพัฒนา FINNIX เพื่อการให้บริการอย่างทั่วถึง ได้ใช้กลยุทธ์ “F.I.R.E. อีโคซิสเต็ม” โดยครอบคลุม 4 ด้านหลัก ได้แก่ เข้าถึงเงินทุนถูกที่กฎหมายและเป็นธรรม (Finance) เข้าใจพฤติกรรมการเงิน (Intel) สร้างวินัยทางการเงิน (Reward) และเสริมรายได้และความรู้ทางการเงิน (Empowerment) เพื่อเสริมสร้างสุขด้านการเงินแบบองค์รวมให้มั่นคงและยั่งยืน
อีกทั้งได้พัฒนาแอปพลิเคชันครอบคลุม 5 ฟีเจอร์หลัก ได้แก่
ประกาศเป้าหมายปี 2568 ขยายฐานลูกค้าเป็น 1.4 ล้านคน และผลักดันยอดสินเชื่อรวมให้แตะ 57,000 ล้านบาท พร้อมเร่งขยายฟีเจอร์ Job Opportunity ให้เข้าถึง 200,000 คนทั่วประเทศ ขณะที่ยังคงใช้แนวทางอนุมัติสินเชื่อแบบ "5 วินาที" เป็นจุดแข็งในการแข่งขันกับทั้งตลาดสินเชื่อและ Virtual Bank ที่กำลังจะเข้ามาในอนาคต
แม้ต้องเผชิญการแข่งขันที่สูง แต่ FINNIX ยังคงยึดหลัก "เข้าใจลูกค้า" เป็นศูนย์กลาง โดยมีเป้าหมายระยะยาวในการเข้าถึงคนไทย 7 ล้านคนที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินของธนาคาร