ถอดรหัสราคาอาหารจานด่วน 13 ปี คนเมืองจ่ายแพงขึ้น 106% ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจและเงินในกระเป๋า

Personal Finance

Financial Planning

Tag

ถอดรหัสราคาอาหารจานด่วน 13 ปี คนเมืองจ่ายแพงขึ้น 106% ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจและเงินในกระเป๋า

Date Time: 20 มิ.ย. 2568 10:38 น.

Video

อย่ากลัว! วิกฤติใหญ่ยังไม่เกิด หาโอกาสลงทุน กับ กวี ชูกิจเกษม | Thairath Money Night Stand EP.21

Summary

13 ปี ราคาพุ่ง 106% เมื่อข้าวจานเดียว บอกอะไร ได้มากกว่าตัวเลข GDP คนเมืองจ่ายแพงขึ้นทุกปี แต่ “เงินเดือน” แทบไม่ขยับ

ราคาขึ้น 106% ในเวลา 13 ปี แต่คุณ...ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่? 

นี่คงเป็น 1 ในเหตุผล ที่ทำให้หลายคนรู้สึกว่า ทำงานหนักขึ้น แต่กลับมีเงินไม่พอใช้มากขึ้นทุกปี หากเงินเดือนคุณขึ้นปีละ 3% แต่ต้องจ่ายค่าข้าวแพงขึ้น 6% ในทุกๆปี ไม่ต่างจากเรากำลัง “จนลง” โดยไม่รู้ตัว

ข้อมูลนี้ไม่ได้อ้างเอ่ยขึ้นมาเอง แต่มาจากการเก็บข้อมูล และสำรวจ การเปลี่ยนแปลงราคาอาหาร ใจกลางเมือง  ย่าน สีลม สุรวงศ์ และ สาทร ตั้งแต่ปี 2555-2568 โดย ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งถือเป็น 1 ในดัชนีสำคัญ ชี้วัด เศรษฐกิจของประเทศ

การสำรวจนี้ ดำเนินการรวมทั้งสิ้น 21 ครั้ง แต่ในระยะหลังเปรียบเทียบรอบปีแทน  เจาะจงเฉพาะในพื้นที่สีลม-สุรวงศ์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจหรือ Central Business District (CBD) ของประเทศไทย และมีคนทำงานในสำนักงานเป็นจำนวนมาก  

ภายใต้ตั้งสมมติฐานว่าราคาอาหารในย่านนี้เป็นราคามาตรฐานตัวแทนสำคัญสำหรับกรุงเทพมหานคร ผ่านการเดินสำรวจซ้ำตามร้านเดิมที่เคยสำรวจไว้จำนวนมากกว่า 30 ร้าน บางบริเวณเป็นร้านอาหารร้านเดียว บางบริเวณเป็นศูนย์อาหาร 

พร้อมบันทึกถ่ายภาพนิ่ง และวีดีทัศน์ประกอบ และในบางบริเวณมีร้านค้าเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามห้วงเวลาอีกด้วย โดยแต่ละครั้งที่สำรวจใช้เวลาในการเดินไม่เกิน 2 ชั่วโมงในช่วงเวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน 

ปรากฎข้อมูล 13 ปี (พฤษภาคม 2555 – มิถุนายน 2568) ราคาอาหารจานด่วน เพิ่มจาก 31.0 บาท เป็น 64.0 บาท หรือเพิ่มขึ้น 106.5%  และหากคิดเป็นการเพิ่มขึ้นต่อปี ก็เท่ากับเพิ่มขึ้นประมาณ 5.7% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงพอสมควร เพราะสูงกว่าอัตราภาวะเงินเฟ้อ

ราคาอาหารเฉลี่ย เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว เป็นดังนี้

  • พฤษภาคม 2555                 31.0 บาท
  • พฤษภาคม 2556                 31.8 บาท
  • พฤษภาคม 2557                 34.3 บาท
  • พฤศจิกายน 2557                36.1 บาท
  • พฤษภาคม 2558                 38.4 บาท
  • พฤศจิกายน 2558                40.0 บาท
  • พฤษภาคม 2559                 41.7 บาท
  • พฤศจิกายน 2559                43.1 บาท
  • พฤษภาคม 2560                 45.7 บาท
  • พฤศจิกายน 2560                47.1 บาท
  • พฤษภาคม 2561                 48.1 บาท
  • พฤศจิกายน 2561                49.0 บาท
  • พฤษภาคม 2562                 50.2 บาท
  • พฤษภาคม 2563                 51.4 บาท
  • มิถุนายน 2564                    53.5 บาท
  • พฤษภาคม 2565                 57.0 บาท
  • พฤษภาคม 2567                 62.8 บาท
  • มิถุนายน 2568                    64.0 บาท

ขณะเดียวกัน มีการตั้งข้อสังเกตว่า ในบางกรณี แม้ราคาไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณอาจจะลดน้อยลง หรือบางร้านปริมาณจะคงเดิม แต่คุณภาพก็อาจลดลง โดยผู้ค้าบางรายกล่าวว่า  ไม่สามารถขึ้นราคาอาหารได้เพราะคนซื้อไม่มีกำลังซื้อเท่าที่ควร ทั้งที่วัตถุดิบในการทำอาหารเพิ่มขึ้นก็ตาม  จะสังเกตได้ว่าร้านที่ยังพยายามยืนราคาอาหารไว้ หรือไม่ขึ้นราคา จะมีผู้เข้าคิวอุดหนุนมากเป็นพิเศษ

อีกทั้งทีมสำรวจ มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า อาจมีบางบริเวณ เช่น เมืองท่องเที่ยว หรือเมืองอุตสาหกรรมที่มีการปรับเพิ่มของราคาขายมากกว่านี้ หรือสำหรับรายการอาหารแบบฟาสต์ฟูด ก็อาจปรับราคาเพิ่มขึ้นตามอำเภอใจโดยไม่ได้มีการควบคุม 

แต่สำหรับประชาชนกันเอง ย่อมมีความเห็นใจและถ้อยทีถ้อยอาศัยกันตามสมควร จึงทำให้แทบไม่มีการปรับราคาขาย  แต่ระยะหลังจากที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ทำให้การเพิ่มราคาอาหารเกิดขึ้นอย่างชัดเจน

ค่าเช่าที่ ตัวแปรต้นทุนขายอาหาร

จากการสัมภาษณ์ผู้ค้าพบว่า สิ่งที่ส่งผลที่เด่นชัดกว่าก็คือ ค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกเพื่อการขายอาหาร  หากค่าเช่าแพงขึ้นมาก ก็จะทำให้ราคาอาหารเพิ่มมากขึ้น บางแห่งเช่าพื้นที่ขนาดประมาณ 18 ตารางเมตร เป็นเงินถึง 60,000 บาทต่อเดือน (ตรม.ละ 3,333 บาท) 

ดังนั้นรัฐบาลหรือกรุงเทพมหานคร อาจช่วยจัดหาพื้นที่ค้าขายในราคาถูก เพื่อให้ผู้ค้าสามารถยืนหยัดขายในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ประชาชน

และด้วยเหตุที่ค่าเช่าพื้นที่ขายแพง  ก็เลยมีร้านอาหารประเภท “อาหารกล่อง” คือให้ผู้ซื้อๆ กลับไปรับประทานที่อื่น จึงประหยัดค่าเช่าได้มาก ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญ และตามศูนย์อาหารต่างๆ  ก็พบว่า ร้านค้าหลายแห่งหายไป บางแห่งปิดร้านไปตั้งแต่ช่วงโควิดเมื่อ 1-2 ปีก่อน (2563-2564) อย่างไรก็ตามร้านค้าที่ปิดไปส่วนมาก เพิ่งปิดในช่วงปี 2564-2565 นี้เอง  ในการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 ร้านค้าบางแห่งก็ยังซบเซาอยู่

สำหรับ ปี 2568-2569 ประเมินว่า ราคาอาหารน่าจะยังค่อนข้างทรงตัวเพราะเศรษฐกิจฝืดเคืองกันทั่วหน้า หากขึ้นราคาสินค้าอาหารอีก ก็คงยิ่งขายยาก ราคาอาหารจึงน่าจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 2% เช่นกัน

จากข้อมูลข้างต้น อาจกล่าวได้ว่า ในขณะที่ตัวเลข GDP ถูกหยิบมาอ้างถึงเพื่ออธิบาย “ภาพรวมเศรษฐกิจ” แต่ข้าวจานเดียวกลับสะท้อน “ความเป็นจริงของชีวิตประจำวัน” ได้ชัดเจนเสียยิ่งกว่า


ที่มา :  AGENCY FOR REAL ESTATE AFFAIRS

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

อุมาภรณ์ พิทักษ์

อุมาภรณ์ พิทักษ์
เศรษฐกิจ การเงิน ลงทุน และ อสังหาริมทรัพย์