
ในโลกที่การเงินหมุนเวียนเปลี่ยนผันอย่างรวดเร็ว การวางแผนและบริหารจัดการเงินอย่างชาญฉลาดคือเข็มทิศสำคัญนำทางสู่ความมั่นคงในชีวิต “ท็อป นรากร กันจันทึก” ศิลปินมากความสามารถจากวงระเบียบวาทะศิลป์ และ “เจนนี่ ศิริโสภา ไชยปุริวงศ์” มิสแกรนด์นครราชสีมา 2025 คือสองตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการเงินตั้งแต่อายุยังน้อย เรื่องราวและแนวคิดของพวกเขามอบบทเรียนล้ำค่าให้เราได้เรียนรู้และปรับใช้
โดยในช่วงเสวนา "รุ่นใหม่จัดการเงินเป็น รู้ก่อน รอดก่อน" ในงาน "Thairath Money Roadshow 2025" ที่ได้เปิดโลกการเงินให้คนไทย ในครั้งแรกของปี 2568 โดยจัดขึ้นที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัล โคราช
เริ่มแรก ท็อป นรากร กันจันทึก วงระเบียบวาทะศิลป์ เล่าว่า เส้นทางการเงินของเขาเริ่มต้นตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วงการหมอลำเต็มตัวเสียอีก นั่นคือการเป็นผู้ประกอบการนำเสื้อผ้ามาขายผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก โดยทุนตั้งต้นมาจากการเดินสายประกวดร้องเพลงตามเวทีต่างๆ แม้ไม่ได้คาดหวังรางวัลชนะเลิศ แต่เขามุ่งหวังนำเงินรางวัลมาต่อยอดธุรกิจ ความมุ่งมั่นนี้ทำให้เขามีเงินเก็บหลักหมื่นบาทต่อเดือนจากการขายเสื้อผ้า ซึ่งมากกว่ารายได้จากการร้องเพลงในขณะนั้น และเป็นครั้งแรกที่เขามีเงินเก็บเป็นกอบเป็นกำ
จนกระทั่งอายุ 17 ปี ท็อปได้เข้าร่วมวงระเบียบวาทะศิลป์ ทำให้มีรายได้สูงขึ้น คุณแม่ได้แนะนำวิธีออมเงินแบบง่ายๆ แต่ได้ผลจริง คือการหยอดกระปุกด้วยเหรียญ 10 บาททุกวัน และเพิ่มธนบัตรเมื่อมีรายได้เหลือจากการแสดง เพียงปีแรกเขาก็เก็บเงินได้ถึง 25,000 บาท เป็นเครื่องยืนยันว่าการออมเงินนั้นสามารถทำได้จริง
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ท็อปตระหนักถึงการเก็บเงินอย่างจริงจังยิ่งขึ้นเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะไม่กลับไปเผชิญปัญหาทางการเงินดังเช่นในอดีต ประกอบกับช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่เป็นแรงผลักดันให้เขาคิดหาช่องทางสร้างรายได้เพิ่มโดยไม่ต้องใช้เงินทุนมากนัก จึงเกิดเป็นไอเดียการทำไลฟ์กลุ่มปิดสำหรับแฟนคลับ โดยเชิญศิลปินดังอย่าง แอน อรดี มาร่วมสร้างสีสัน ซึ่งสร้างรายได้และกำไรถึงระดับ 6 หลักต่อ EP เลยทีเดียว
เจนนี่ ศิริโสภา ไชยปุริวงศ์ มิสแกรนด์นครราชสีมา 2025 เล่าว่า เริ่มสร้างรายได้ด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 16 ปี ขณะเรียนมหาวิทยาลัย โดยทำงานพาร์ทไทม์เป็นนางแบบถ่ายรูปให้ร้านเสื้อผ้าออนไลน์ในโคราช ได้ค่าตอบแทนวันละ 500 บาท ซึ่งเป็นความภูมิใจแรกที่หาเงินได้ด้วยความสามารถของตนเอง
ในช่วงวัยรุ่น เจนนี่ได้ลองผิดลองถูกกับการลงทุน โดยเคยลงทุนในบิตคอยน์ ซึ่งมีทั้งช่วงที่ได้กำไรและขาดทุน นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในกองทุนรวมและตราสารหนี้ของสหรัฐอเมริกา เธอยอมรับว่าการลงทุนมีความเสี่ยงและต้องศึกษาให้ดี
จนเมื่ออายุ 18 ปี หลังจากได้รับตำแหน่งมิสแกรนด์นครราชสีมาและมีชื่อเสียงมากขึ้น ทำให้มีงานโชว์ตัวและโฆษณาเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เธอจึงเริ่มเก็บเงินอย่างจริงจัง โดยเปิดบัญชีออมทรัพย์และตั้งเป้าโอนเงินอัตโนมัติเดือนละ 8,000 บาท ในช่วงแรกเธอเน้นการเก็บออมสูงถึง 80% ของรายได้ โดยแบ่งเป็นการลงทุน 70% และออมทรัพย์ 10% ส่วนที่เหลือ 20% ไว้ใช้จ่าย โดยจะตัดเงินเข้าบัญชีเก็บออมทันทีที่ได้รับรายได้
ทว่าการเก็บเงินอย่างเคร่งครัดโดยไม่ผ่อนปรนก็นำมาสู่บทเรียนสำคัญ เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เจนนี่ประสบภาวะ "ตะบะแตก" จากความรู้สึกกดดัน ทำให้เธอใช้จ่ายเงินซื้อของแบรนด์เนมราคาสูง จนเงินเก็บจาก 6-7 หลัก ลดเหลือเพียงหลักหมื่นต้นๆ เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอตระหนักว่าการเก็บเงินมากเกินไปจนขาดสมดุลก็ไม่ใช่เรื่องดี และจำเป็นต้องให้รางวัลตัวเองบ้าง
เรื่องราวของ “ท็อป นรากร” และ “เจนนี่ ศิริโสภา” สะท้อนให้เห็นว่าการสร้างความมั่นคงทางการเงินไม่ได้จำกัดอยู่แค่วัยหรืออาชีพ แต่เป็นผลลัพธ์ของการเริ่มต้นเร็ว การมีวินัย การเรียนรู้จากทั้งความสำเร็จและข้อผิดพลาด การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และที่สำคัญที่สุดคือการวางแผนเพื่ออนาคตอย่างรอบคอบและไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาตนเอง
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney