ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่รวมถึงจิตใจและสุขภาพการเงินที่ดี จึงกลายเป็นเรื่องของการดูแลแบบองค์รวม ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงแค่ด้านใดด้านหนึ่ง
นี่คือแนวคิดเบื้องหลังของ “ALive Powered by AIA” แอปพลิเคชันที่เริ่มต้นจากการดูแลแม่และเด็ก แต่ปัจจุบันได้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ สู่การเป็นแพลตฟอร์มเพื่อสุขภาพครบวงจรสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยใดของชีวิต
บิ๊กเวิน เตรือง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ด้านผลิตภัณฑ์และการสร้างประสบการณ์ลูกค้า เอไอเอ เวลเนส กล่าวว่า ที่ผ่านมา ALive Powered by AIA สร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์การดูแลสุขภาพแม่และเด็ก ฉะนั้นแอปฯ นี้จึงโฟกัสเกี่ยวกับสุขภาพของครอบครัว โดยเวอร์ชั่นแรกจะเป็นการช่วยคุณแม่ตั้งครรภ์, ติดตามพัฒนาการการเติบโตของเด็ก และคนในครอบครัว
แต่เมื่อพัฒนาแอปฯ ไปได้ระยะหนึ่งจึงพบว่า จริงๆ แล้วหากเราต้องการจะช่วยคนไทยให้มีสุขภาพที่ดีจะต้องมีการขยายความให้มากกว่านี้ ซึ่งการขยายความในที่นี้ จึงไม่ใช่แค่กลุ่มแม่และเด็ก
ดังนั้นจึงได้มีการพัฒนาฟีเจอร์ให้สามารถใช้งานได้ง่ายสำหรับทุกคนในทุกช่วงอายุ ครอบคลุมทั้งสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ และสุขภาพการเงิน โดดเด่นด้วย 5 ฟีเจอร์หลัก อาทิ ALive Show รายการที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ และการเงิน พร้อมนำเสนอสาระดี ๆ ที่มาพร้อมความบันเทิง โดยโค้ชผู้เชี่ยวชาญที่คัดสรรมาเป็นพิเศษผ่านรูปแบบวิดีโอ,Food Tracker ตัวช่วยคำนวณค่าแคลอรี่ในอาหารแต่ละมื้อ
Personality Test แบบทดสอบบุคลิกภาพตามหลักจิตวิทยา, Mood Diary ตัวช่วยบันทึกอารมณ์แบบรายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน และฟีเจอร์ใหม่ Tax Calculation ตัวช่วยคำนวณภาษีและวางแผนการเงิน หรือแม้กระทั่งการดูดวง พร้อมสิทธิพิเศษต่าง ๆ เกี่ยวกับสุขภาพไว้ให้สำหรับผู้ใช้งานในฟีเจอร์ Rewards ผ่านฟีเจอร์อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI โดยมีเป้าหมายให้ทุกคนสามารถ “เปลี่ยนตัวเองเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุด (Be the Best Version of Yourself)”
“กลุ่มเป้าหมายอายุเฉลี่ย 20-55 ขึ้นไป โดยส่วนใหญ่ผู้ใช้งานจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อยู่ที่ 60:40 ทั้งนี้จากข้อมูลการใช้งานพบว่า คนในวัย 20 ต้นๆ จะให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพการเงินเป็นหลัก ต่อมาคือสุขภาพใจ และร่างกาย แต่ในวัย 25-55 ขึ้นไปจะให้น้ำหนักไปที่สุขภาพร่างกายเป็นอันดับหนึ่ง ต่อมาคือสุขภาพการเงิน และจิตใจ อีกทั้งในทุกๆ ช่วงอายุจะชื่นชอบการดูดวง และเมนูอาหารแนะนำเป็นพิเศษ” บิ๊กเวิน กล่าว
ส่วนฟีเจอร์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดของแอปฯ คือ คอนเทนต์ที่เกี่ยวกับโภชนาการ การออกกำลังกาย และเรื่องของไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงการคำนวณปริมาณแคลอรี่ และแบบทดสอบบุคลิกภาพที่มียอดแอคทีฟเช่นเดียวกัน เนื่องจากข้อมูลเชิงลึกของ เอไอเอ ประเทศไทย พบว่าการสร้างแรงจูงใจในรูปแบบต่าง ๆ จะช่วยปรับเปลี่ยนและสร้างนิสัยที่ดีหรือ “Good Habit” ได้ ซึ่ง เอ ไลฟ์ ได้มีการนำรูปแบบของเกม (Gamification) มาผสานเพื่อช่วยเสริมการสร้างนิสัยที่ดี ทั้งด้าน Physical, Mental และ Financial ที่มีความสนุกสนาน ไม่สร้างความกดดันให้กับผู้ใช้งานมากเกินไป
บิ๊กเวิน กล่าวต่อไปว่า เอ ไลฟ์ ไม่ได้มุ่งขายประกันโดยตรง เนื่องจากมองว่าเป็นการผลักดันวิสัยทัศน์ของ AIA มากกว่า ซึ่งผู้ที่ไม่ได้เป็นลูกค้า AIA ก็สามารถใช้งานได้
ทำให้ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันแล้วกว่า 2.5 ล้านคน (หลังจากเปิดใช้งานมากว่า 3 ปี)โดยกลางปี 69 ตั้งเป้าจะมีผู้ประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านคน จึงต้องมีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาใช้งานมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเตรียมอัปเกรดแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ชาญฉลาดเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ และพร้อมเป็น “AI Life Coach” ส่วนตัวที่จะสร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นเวอร์ชันที่ดีขึ้นในทุกวัน ทั้งเอาใจสายมู! “ALive x นัดเป็ด” เปิดตัวแคมเปญเรียกความปัง ชวนทุกคนมา “อัปดวงดีเว่อร์” กับผลงานวอลเปเปอร์ 4 แบบสุดพิเศษ อัปชีวิตดีรอบด้านทั้งความรัก-สุขภาพ-การงาน-การเงิน ซึ่งค่อนข้างใหม่สำหรับ AIA และแอปพลิเคชันที่มีในไทยที่รวมทุกอย่างไว้ในแอปฯ เดียว
“ในปี 2568 นี้ จะเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญของแอปพลิเคชัน เอ ไลฟ์ ที่พัฒนาโดย เอไอเอ เวลเนส ด้วยการผสานเทคโนโลยี AI สร้างประสบการณ์ไร้ขอบเขตให้กับผู้ใช้งาน พร้อมรุกการทำการตลาดอย่างเข้มข้นและมีประสิทธิภาพด้วยการนำกลยุทธ์ Marketing Technology หรือ Mar-Tech มาใช้ในการวางแผนการตลาด พร้อมกับดึง Data มาพัฒนาปรับปรุงประสบการณ์ให้กับแอปพลิเคชันมากขึ้น เพราะ“ชีวิตของเรา เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะมีความสุขแบบไหน แต่ชีวิตที่ดีเราสามารถออกแบบได้” บิ๊กเวิน กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน พงศธร จงวิลาส หรือ “ดีเจเผือก” กล่าวว่า ทุกวันนี้ หลายคนหันมาใส่ใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องอาหารหรือการออกกำลังกาย แต่รวมถึงการวางแผนชีวิตในภาพรวม เพราะเมื่อเรามีครอบครัว มีคนที่เราต้องดูแล ไม่ว่าจะเป็นลูก คู่ชีวิต หรือพ่อแม่ที่แก่ตัวลง สุขภาพที่ดีจึงกลายเป็น “สิ่งจำเป็น” ที่ไม่ใช่แค่ “ตัวเลือก” เพราะต่อให้มีเงินมากแค่ไหน หากสุขภาพไม่ดี สุดท้ายก็ต้องใช้เงินก้อนนั้นไปกับค่ารักษาพยาบาลอยู่ดี
ดังนั้น “การดูแลตัวเอง” ไม่ใช่แค่เรื่องของวันนี้ แต่เป็นการลงทุนเพื่อชีวิตในระยะยาว และการมี Wellness ที่สมบูรณ์ ต้องาศัยปัจจัยหลายด้าน ทั้งร่างกาย จิตใจ และการเงิน และนั่นคือเหตุผลที่แอปฯ อย่าง ALive Powered by AIA ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราจัดการชีวิตได้ครอบคลุมทุกมิติ
พงศธร กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันมีการลงทุนไปกับ ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ เพื่อความมั่นคงในระยะยาวรวมทั้งยังได้มีการทำประกันสุขภาพ เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วย ประกันอุบัติเหตุ ในการคุ้มครองเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และยังได้มีการลงทุนในกองทุนรวมเปิดพอร์ตหุ้น และออมทองอีกด้วย
“แม้เพิ่งเริ่มต้นวางแผนการเงินในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่สายเกินไป เพราะการวางแผนที่ดี เริ่มจากก้าวเล็กๆ ที่ทำได้ทุกวัน และเมื่อเราทำอย่างต่อเนื่อง ชีวิตก็จะค่อยๆ ดีขึ้นในแบบที่เราตั้งใจไว้ เพราะอนาคต เท่ากับคำว่า ไม่แน่นอน นอกจากอาชีพนักแสดงและดีเจ ก็ต้องมีอาชีพที่สอง สาม สี่ รองรับไว้ด้วย เพราะวันนึงหากงานเบื้องหน้าไม่มี ก็ต้องใช้ความสามารถอื่นๆ สร้างรายได้ เช่น การกำกับโฆษณา สอนการแสดง”
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney