คนรุ่นใหม่ใช้จ่ายเกินตัว

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานเสวนา “แนวพระราชดำริ : ภูมิคุ้มกันโครงสร้างเศรษฐกิจไทย” ว่า ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายซื้อรถคันแรก และการแข่งขันปล่อยสินเชื่อรายย่อยดอกเบี้ย 0% เป็นตัวเร่งหนี้ครัวเรือน และจากการติดตามข้อมูลพฤติกรรมพบว่าคนไทยใช้จ่ายเงินง่ายขึ้น ซื้อของฟุ่มเฟือยและก่อหนี้เกินความจำเป็น โดยเฉพาะการใช้จ่ายของคนรุ่นใหม่ เด็กจบใหม่ ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานมีการใช้จ่ายเกินตัว พร้อมจะก่อหนี้เพื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะมีโปรโมชันผ่อนจ่าย 6 เดือน 0% และชอบซื้อของออนไลน์ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยของไทยที่ต่ำมานาน ทำให้ไม่จูงใจในการออม ซึ่ง ธปท.พยายามแก้ไข เช่น การออกเกณฑ์ควบคุมบัตรเครดิตส่วนบุคคล มาตรการแอลทีวี สินเชื่อจำนำทะเบียน และการเปิดคลินิกแก้หนี้ เป็นต้น

ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ กล่าวว่า ช่วง 50 ปีที่ผ่านมา พบว่าประชากรไทย 35.8 ล้านคน เพิ่มเป็น 66.8 ล้านคน มีการย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในเขตเมืองเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 56% และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้น จาก 6,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

“ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง เป็นผลจากความฟุ้งเฟ้อและคำว่าไม่รู้จักพอ เนื่องจากกู้เงินเพื่อการบริโภคกันมากเกินไป จึงขอเชิญพระราชดำรัส รัชกาลที่ 9 เป็นเครื่องเตือนใจว่า กู้เงินมาแล้วต้องทำให้มีรายได้ ซึ่งไม่ได้ห้ามกู้เงิน แต่ต้องกู้เงินทำในสิ่งที่งอกงามขึ้น ส่วนปัญหาหนี้ครัวเรือนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สะท้อนจากสัดส่วนเกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 4,750 บาท โดยกว่า 40% ยังอยู่ใต้ความยากจน ต้องย้ายเข้ามาทำงานในเมือง ฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่ต้องเชื่อมั่นกับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โดยต้องลงมือทำทันที”.