นักการเมืองโอนสินทรัพย์เข้ากองทุน

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

นักการเมืองโอนสินทรัพย์เข้ากองทุน

Date Time: 20 มี.ค. 2562 08:34 น.

Summary

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงกรณีที่นักการเมืองบางพรรคโอนทรัพย์สินส่วนตัว 5,000 ล้านบาทเข้ากองทุน บลายด์ ทรัสต์ (Blind Trust)

Latest

สรุปจบสไตล์การเงินประจำปี 2568 กับ 3 คำถามวัดพฤติกรรมการเงิน

ยังเสียภาษี-เป็นรัฐมนตรีต้องยื่น ป.ป.ช.

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงกรณีที่นักการเมืองบางพรรคโอนทรัพย์สินส่วนตัว 5,000 ล้านบาทเข้ากองทุน บลายด์ ทรัสต์ (Blind Trust) ซึ่งเป็นกองทุนที่นำทรัพย์สินของตนเองให้นิติบุคคล หรือบริษัทจัดการทรัพย์สินดูแลผลประโยชน์ โดยนักการเมืองไม่สามารถสั่งการได้จนกว่าจะพ้นตำแหน่งนั้น ในส่วนกรมขอชี้แจงว่า กองทุน Blind Trust เป็นกองทุนปกติ ที่มีการรับบริหารจัดการทรัพย์สิน ซึ่งตนยังไม่ทราบว่าเป็นการจดสัญญาเข้ากองทุนในลักษณะใด แต่โดยทั่วไปถ้าเป็นกองทุนบริหารส่วนบุคคล มีหน้าที่จะต้องนำส่งรายได้ และผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นภาษีหรือเงินปันผลที่เกิดขึ้นกับกรมสรรพากร และยังต้องเสียภาษีเหมือนเดิม และการเข้ากองทุน Blind Trust ไม่ได้หมายความว่าจะหลบซ่อนภาษีได้ ซึ่งหากพบว่าไม่เสียภาษี กรมจะเข้าไปตรวจสอบทันที

ขณะที่นายปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวให้ความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า บุคคลทั่วไปที่ประสงค์จะจัดตั้งกองทุนส่วนบุคคลเพื่อบริหารจัดการทรัพย์สินสามารถทำได้ตามปกติอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี หากเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งรัฐมนตรี การดำเนินการต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 ซึ่งไม่อยู่ภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต.

ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงในวงการตลาดทุน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีนักการเมืองที่ได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีได้เข้ามาใช้บริการกองทุนส่วนบุคคลจำนวนมาก เพื่อให้เป็นไปตามข้อกฎหมายของ พ.ร.บ. การจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 ที่กำหนดให้รัฐมนตรีถือหุ้นในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ไม่เกิน 5% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด กรณีห้างหุ้นส่วนจำกัด ก็จำกัดความรับผิดได้ไม่เกิน 5% ของทุนทั้งหมด ดังนั้น รัฐมนตรีที่มีหุ้นเกินจำนวนดังกล่าว จึงมีการเข้ามาใช้บริการบริษัทที่มีใบอนุญาตตั้งกองทุนส่วนบุคคลและโอนหุ้นทั้งหมดหรือเฉพาะส่วนที่เกินให้กองทุนบริหารจัดการให้แทนในระหว่างดำรงตำแหน่ง แต่ยังคงต้องแจ้งทรัพย์สินส่วนนี้แก่ ป.ป.ช.

โดยตาม พ.ร.บ.นี้ ได้มีข้อกำหนดตามมาตรา 10-14 โดยมีสาระสำคัญว่า หลังรับโอนหุ้นแล้ว นิติบุคคลหรือกองทุนส่วนบุคคลต้องรายงานการรับโอนหุ้นพร้อมสำเนาของสัญญาการจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรีให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใน 10 วัน และห้ามมิให้รัฐมนตรีกระทำการใดอันมีลักษณะเป็นการเข้าไปบริหารครอบงำ หรือออกคำสั่งเกี่ยวกับการจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นหรือการจัดหาผลประโยชน์ในหุ้นนั้น รวมทั้งห้ามมิให้นิติบุคคลยินยอมให้ดำเนินการ.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ