
กระทรวงแรงงาน จับมือ เอกชน จ้างงานคนวัยเกษียณ 1 แสนคน หน่วยงานรัฐร่วมจ้าง 5 พันคน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสังคมผู้สูงอายุ...
วันที่ 25 ก.พ. 62 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน เป็นประธานประชุมการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีงานทำ โดยมี นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมประชุม อาทิ กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการพัฒนาชุมชน กรมสรรพากร กรมกิจการผู้สูงอายุ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย สมาคม อบต.แห่งประเทศไทย บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด บริษัทฟู้ดแพชชั่น จำกัด บริษัทสยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัทโรบินสัน จำกัด (มหาชน) บริษัทบางจากกรีนเนท จำกัด
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิต มีมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุด้านการจ้างงาน การก่อสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ และสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ โดยในปี 2560 ไทยมีคนอายุ 60 ปีขึ้นไป 11.35 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 16.8 ของประชากรทั้งประเทศ มีผู้สูงอายุทำงาน 4.06 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 35.8 ของผู้สูงอายุทั้งหมด
ขณะที่ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเป็นผู้ปฏิบัติงานที่มีฝีมือด้านการเกษตรและประมง รองลงมาเป็นพนักงานบริการและผู้จำหน่ายสินค้า มีชั่วโมงการทำงาน ประมาณ 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ ได้รับค่าจ้างประมาณ 11,600 บาทต่อเดือน ส่วนที่ทำงานในภาคการค้าและบริการ ได้รับค่าจ้างประมาณ 16,946 บาทต่อเดือน ภาคการผลิต 10,557 บาท และภาคเกษตรกรรม 4,874 บาท
สำหรับในปี 2562 กระทรวงแรงงาน มีเป้าหมายส่งเสริมการมีงานทำผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60-69 ปี จำนวน 100,000 คน เป็นผู้สูงอายุในระบบ 20,000 คน ในจำนวนนี้เป็นลูกจ้างเอกชน 15,000 คน ลูกจ้างภาครัฐ 5,000 คน และผู้สูงอายุนอกระบบ 80,000 คน เป็นการส่งเสริมประกอบอาชีพอิสระ 70,000 คน ส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน 10,000 คน ค่าจ้างของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปคณะกรรมการค่าจ้าง ได้พิจารณาอัตราค่าจ้างที่เหมาะสม ไม่ต่ำกว่า 45 บาทต่อชั่วโมง ต้องไม่เป็นงานที่อันตราย ไม่ทำงานงานเกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว
"หลังจากนี้จะมีการออกประกาศเป็นกฎกระทรวง ขอความร่วมมือในการจ้างงานผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุจะเป็นลูกจ้างบริษัทที่จ้างอยู่ก่อนแล้ว หลังเกษียณอายุแล้ว มีการจ้างให้ทำงานต่อ หรือเป็นผู้สูงอายุที่ขึ้นทะเบียนหางานไว้กับกรมการจัดหางานก็ได้ บริษัทที่จ้างสามารถนำรายจ่ายในการจ้างผู้สูงอายุมายกเว้นภาษีเงิน หักรายจ่ายได้ 2 เท่า โดยรายจ่ายที่จะได้รับการยกเว้นภาษี ต้องเกิดจากรายจ่ายที่จ่ายเป็นค่าจ้างผู้สูงอายุไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท" พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว.