เป็นห่วงคนวัยเกษียณ อาจมีเงินไม่พอใช้

ตอนนี้มีการพูดถึงสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น เนื่องจากอีกไม่กี่ปีข้างหน้าบ้านเราก็จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างจริงจังกันแล้ว แต่พอพูดถึงวัยเกษียณและเงินออมที่มีไว้ใช้สำหรับวัยเกษียณแล้วนี่สิ รู้สึกว่าผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยเกษียณส่วนใหญ่จะมีสีหน้าวิตกและกังวลใจ เพราะเงินที่เคยได้รับจากการทำงาน แต่พอถึงวัยที่ต้องปลดระวางก็จะไม่ได้รับเงินเดือนเหมือนที่เคย

แถมเมื่อหันไปมองที่ “เงินออมเพื่อวัยเกษียณ” ก็ไม่ค่อยมีเงินเก็บหรือมีเงินออมสักเท่าไหร่ ซึ่งบางคนที่ไม่มีตังค์เก็บ ก็ไม่ใช่ด้วยเหตุผลที่ไม่ยอมเก็บหรือไม่ยอมออมตอนที่ยังมีกำลังทำงานกันหรอกนะ แต่เพราะเงินเดือนน้อย และมีหนี้สิน บางคนจึงไม่เหลือให้เก็บกันจริงๆ ทำให้การออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณจากการทำงานมีไม่พอต่อการดำรงชีวิตต่อไป จึงดิ้นรนหาทางทำงานต่อไปหลังเกษียณแล้ว

เรื่องนี้ นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก) เปิดเผยในงานสัมมนาระบบการออมเพื่อการเกษียณรองรับสังคมผู้สูงอายุ จัดโดยสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ขณะที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่กลับพบว่าผู้สูงอายุมีรายได้ไม่พอใช้ โดยแหล่งรายได้หลักของผู้สูงอายุจะมาจากลูกหลาน ซึ่งก็มีแนวโน้มลดลงไปเรื่อยๆ และอาจถึงขั้นไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูพ่อแม่วัยเกษียณ ทำให้ผู้เกษียณอายุบางส่วนยังต้องทำงานต่อไป มิน่าถึงเคยเห็นผู้สูงอายุยังคงออกมาทำมาค้าขายเพื่อเลี้ยงตัวอยู่นะ

และจากข้อมูลธนาคารโลก พบว่า ประชากรไทยมีเงินออมรวมกันเพียง 7% ของจีดีพี ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทุกประเทศในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วประชากรมีเงินออมอยู่ที่ 50.7% ของจีดีพี ส่วนประเทศที่มีเงินออมมากที่สุดคือ เดนมาร์ก!

ด้านนางพรอนงค์ บุษราตระกูล หัวหน้าภาควิชาการธนาคารและการเงิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ยังออมเงินเพื่อการเกษียณน้อยมาก โดยอัตราการออมยังไม่น่าพอใจ ขณะที่ระดับหนี้ต่อครัวเรือนยังสูง แต่มีเงินออมเพียง 8-10% เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอ

โดยการออมที่เพียงพออยู่ที่ 10–15% ของรายได้ เช่น ถ้ามีรายได้ 2 หมื่นบาท ต้องมีเงินออมไม่ต่ำกว่า 2 พันบาทต่อเดือน และหากคำนวณบนพื้นฐานความต้องการรายได้หลังเกษียณเฉลี่ยที่ 16,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นต้องมีเงินออมไม่น้อยกว่า 4.5 ล้านบาท อื้อหือ เป็นเงินไม่น้อยเลยนะ จะมีใครมีเงินเท่านี้บ้างเนี่ย?

ปัญหาของพวกเราคือ ขาดความรู้ความเข้าใจทางการเงิน และไม่รู้จักการวางแผนทางการเงิน เมื่อรู้แบบนี้ใครที่กำลังอยู่ในวัยทำงานใหม่ๆก็ควรเก็บออมไว้แต่เนิ่นๆละกัน.

คนสมถะ