ดีเดย์ขอปรับหนี้ออนไลน์ คลังแบ่งเบาภาระลูกหนี้ กยศ. 1.7 ล้านราย

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ดีเดย์ขอปรับหนี้ออนไลน์ คลังแบ่งเบาภาระลูกหนี้ กยศ. 1.7 ล้านราย

Date Time: 2 ส.ค. 2564 06:15 น.

Summary

  • กยศ.เปิดทางให้ลูกหนี้ที่ยังไม่ถูกฟ้อง 1.7 ล้านราย ขอปรับโครงสร้างหนี้ผ่านออนไลน์ ลดเงินงวด ขั้นต่ำ 10 บาท ผ่อนยาว 30 ปี จนถึงอายุ 65 ปี เพื่อแบ่งเบาภาระ ด้าน ธปท.ขยายเวลาลงทะเบียน

Latest

ส่อง 6 บัตร Travel Card ท่องเที่ยวคุ้ม! ใช้จ่ายทั่วโลก เรตดี ไม่มีชาร์จ 2.5% พร้อมสิทธิพิเศษเพียบ

กยศ.เปิดทางให้ลูกหนี้ที่ยังไม่ถูกฟ้อง 1.7 ล้านราย ขอปรับโครงสร้างหนี้ผ่านออนไลน์ ลดเงินงวด ขั้นต่ำ 10 บาท ผ่อนยาว 30 ปี จนถึงอายุ 65 ปี เพื่อแบ่งเบาภาระ ด้าน ธปท.ขยายเวลาลงทะเบียนรับความช่วยเหลือแก้หนี้เช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ออกไปอีก 1 เดือน จนถึงสิ้นเดือน ส.ค.นี้ ลูกหนี้ผ่อนไม่ไหว หนี้เสียยังไม่ถูกยึดรถ ถูกยึดรถแล้วลงทะเบียนได้หมด

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป กยศ. ได้เปิดให้ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระหนี้ที่ยังไม่ถูกฟ้องคดีจำนวนกว่า 1.7 ล้านคน ให้เข้ามาแจ้งความประสงค์ขอปรับโครงสร้างหนี้ได้แล้วแบบภาคสมัครใจ ผ่านแอปพลิเคชัน กยศ. Connect หรือผ่านเว็บไซต์ https://wsa.dsl.studentloan.or.th  เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้กู้ยืมช่วงการแพร่ระบาดของโควิด

สำหรับขั้นตอนการผ่อนชำระหนี้นั้น เมื่อผู้กู้ยืมแจ้งขอปรับโครงสร้างหนี้แล้ว กยศ.จะมีการตรวจสอบรายละเอียดของผู้กู้ หากตรวจสอบเสร็จจะมีการติดต่อกลับไปเพื่อนัดทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ฉบับใหม่ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนเงื่อนไขเพื่อให้เงินงวดชำระต่อเดือนลดลง และมีระยะเวลาในการผ่อนชำระนานขึ้น โดยผ่อนได้สูงสุด 30 ปี แต่เงินงวดสุดท้ายผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี ตลอดจนมีส่วนลดเบี้ยปรับให้ชำระในงวดสุดท้ายด้วย นอกจากนี้ กยศ.ยังได้ปรับลำดับตัดชำระหนี้ สำหรับผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระเงินคืนกองทุนที่ยังไม่ถูกฟ้องคดี จากเดิมที่ใช้วิธีการตัดเบี้ยปรับ ดอกเบี้ย และเงินต้น กองทุนจะปรับเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้ใหม่ โดยจะนำเงินที่ได้รับชำระไปตัดเงินต้น ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ

ส่วนผู้กู้ยืมที่ถูกหักเงินเดือนจากนายจ้างโดยตรง กยศ.ได้เปิดให้ผู้กู้ยืมสามารถแจ้งความประสงค์ขอปรับจำนวนเงินดังกล่าวผ่านแอปพลิเคชัน กยศ. Connect ได้แล้วเช่นกัน โดยสามารถขอปรับลดจำนวนเงินที่หักเหลือเพียง 10 บาทต่อเดือน มีผลตั้งแต่เดือน ส.ค.64-มิ.ย.65

นายชัยณรงค์กล่าวว่า แนวทางช่วยเหลือด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ เชื่อว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้กู้ยืมกลุ่มก่อนฟ้องคดีได้ โดยจะได้รับทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ ปรับเปลี่ยนลำดับตัดชำระหนี้ และเปลี่ยนเงื่อนไขการผ่อนชำระ ส่วนผู้กู้ยืมที่ยังไม่สามารถชำระหนี้ได้ในช่วงนี้ กองทุนจะมีการลดเบี้ยปรับให้เหลือเพียง 0.5% รวมทั้งชะลอการฟ้องคดี บังคับคดี ยกเว้นคดีที่จะขาดอายุความ รวมถึงจะช่วยงดการขายทอดตลาดไว้จนถึงสิ้นปีนี้ด้วย

การออกมาตรการนี้เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการบริหารกระแสเงินสดของกองทุนฯ เพราะแม้จะมีเงินผ่อนชำระเข้ามาแต่ละปีลดลง และใช้เวลานานขึ้น แต่ก็เชื่อว่าจะมีจำนวนผู้กู้ยืมกลับมาผ่อนชำระได้มากกว่าเดิม โดยปี 64 กยศ.คาดว่าจะมียอดผ่อนชำระเข้ามาไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 28,000 ล้านบาท

ทางด้านนางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ขยายเวลาจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้เช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ออกไปอีก 1 เดือน จากวันที่ 31 ก.ค.-31 ส.ค. 2564 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีหนี้เช่าซื้อรถยนต์ทุกสถานะที่มีความยากลำบากในการชำระหนี้ช่วงที่โควิด-19 ยังระบาดอย่างรุนแรง ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของ ธปท. หรือสอบถามได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร.1213 โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ธปท. ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และผู้ให้บริการ 12 แห่ง ได้ร่วมกันจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา พบว่า มีประชาชนให้ความสนใจและทยอยลงทะเบียนอย่างต่อเนื่องรวมจำนวน 24,199 คัน ซึ่งผลการไกล่เกลี่ยสามารถที่จะช่วยเหลือลูกหนี้ที่เข้าเงื่อนไขได้ประมาณ 75% ของลูกหนี้ที่ขอรับความช่วยเหลือ.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ