น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือน ก.พ.64 มีการใช้จ่ายเงินจากโครงการ “เราชนะ” แล้วกว่า 70,000 ล้านบาท จากผู้ใช้สิทธิ 30 ล้านคน และคาดว่าจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์จะอยู่ที่ 31-32 ล้านคนตามเป้าหมาย เมื่อปิดลงทะเบียนวันที่ 5 มี.ค.นี้ ส่วนงบประมาณที่นำมาใช้จ่ายในโครงการนี้ราว 200,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ใช้จ่ายไปแล้ว 70,000 ล้านบาท ยังคงเหลืออีก 130,000 ล้านบาท หากไม่เพียงพอ กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเพิ่มเติม
ส่วนการร้องเรียนว่าราคาสินค้าแพงผิดปกตินั้น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันตรวจสอบอย่างใกล้ชิด หากพบร้านค้าใดขายสินค้าราคาแพงเกินจริง กระทรวงการคลัง จะสั่งระงับการจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน และขึ้นบัญชีดำไม่ให้เข้าร่วมโครงการของรัฐอีกต่อไป ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะลงโทษตามกฎหมาย และหากประชาชนพบเห็นผู้ค้าเอาเปรียบ แจ้งได้ที่สายด่วน โทร.1569
สำหรับการลงทะเบียนกลุ่มไร้สมาร์ทโฟน และต้องการความช่วยเหลือพิเศษ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เป็นต้น ขณะนี้ลงทะเบียนแล้ว 1.8 ล้านคน และจะปิดลงทะเบียนวันที่ 5 มี.ค.นี้ คาดว่า จำนวนผู้ลงทะเบียนจะได้ตามเป้าหมาย 2 ล้านคน ส่วนจะขยายเวลาลงทะเบียนสำหรับกลุ่มนี้หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ได้รับนโยบาย เพราะจำนวนผู้ลงทะเบียนลดลงทุกวัน จากเดิมวันละ 100,000-200,000 คน เหลือเพียงวันละ 40,000 คน ดังนั้น อาจไม่จำเป็นต้องขยายเวลา โดยคนกลุ่มนี้จะทราบว่าผ่านคุณสมบัติหรือไม่วันที่ 4 มี.ค. และวันที่ 5 มี.ค. กระทรวงการคลังจะโอนเงินให้คนละ 4,000 บาท ส่วนที่เหลือจะทยอยโอนให้ทุกวันศุกร์จนครบ 7,000 บาท และใช้เงินได้จนถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ ซึ่งผู้ได้รับสิทธิสามารถนำบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดไปใช้จ่ายได้ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเราชนะได้.