“อาคม” เผยผู้ประกันตน มาตรา 33 รออีกนิด ได้เงินเยียวยาลดผลกระทบโควิด-19 แน่นอน พร้อมขอเวลา 2 สัปดาห์ สรุปแนวทางช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว-โรงแรมได้แน่ ขณะที่หอการค้าไทย อ้อนรัฐขอให้ลดหย่อนภาษีให้กับเจ้าของกิจการที่ต้องซื้อวัคซีนโควิดฉีดให้แรงงานต่างด้าว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังหารือกับกระทรวงแรงงานหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาแรงงานผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ที่อยู่ในระบบประกันสังคม 11 ล้านคนเช่นเดียวกับกลุ่มอื่นๆที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่วนจะเยียวยาเป็นเงินเท่าไร ขอพิจารณารายละเอียดและเกณฑ์ต่างๆ ร่วมกับกระทรวงแรงงานอีกครั้ง และจะหาข้อสรุปให้ได้เร็วที่สุด “รูปแบบการจ่ายเงิน จะต้องทำผ่านประกันสังคม ซึ่งอาจคล้ายๆ “เราชนะ” ที่จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน เบื้องต้นจะยึดจำนวนผู้ที่มีสิทธิ์ตามฐานข้อมูลประกันสังคม และจะนำมาประยุกต์ใช้กับการจ่ายเงินผ่านแอปฯเป๋าตังส่วนจะแจกเป็นเงินสดหรือไม่ ยังไม่ทราบ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่จะได้รับสิทธิเยียวยาจากรัฐบาล คาดว่า จะใช้เกณฑ์รายได้มาเป็นตัวชี้วัดแบบเดียวกับโครงการ “เราชนะ” ได้แก่ ต้องมีรายได้ต่อปีไม่เกินกว่า 300,000 บาท และมีเงินฝากในบัญชีธนาคารทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท โดยกระทรวงแรงงานจะเร่งหารือกับกระทรวงการคลังอีกครั้งในสัปดาห์นี้ เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรอง ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติต่อไป
นายอาคมกล่าวภายหลังหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้าพบเพื่อยื่นข้อเสนอและหารือแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจบริการต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19ระลอกใหม่ว่า กระทรวงการคลัง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางช่วยเหลือธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะสภาพคล่องทางการเงินว่าจะช่วยเหลืออย่างไร จนกว่าภาคการท่องเที่ยวจะกลับมา เพราะขณะนี้หลายโรงแรมไม่สามารถแบกรับต้นทุนเป็นระยะเวลานานได้อีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ได้ช่วยเสริมสภาพคล่องทางอ้อมแล้ว เช่น ยืดเวลาจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.64 ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์ ได้ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถึง 90% และยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% เป็นต้น “ส่วนข้อเสนออื่นๆที่ยื่นเข้ามารับไว้พิจารณาแล้ว เช่น การจ้างงาน ที่เอกชนเสนอขอสนับสนุนเงินทุนพัฒนาแอปฯ “ทักทาย” ของคนไทย สำหรับจองโรงแรมและที่พักได้”
ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ข้อเสนอที่ยื่นให้กระทรวงการคลังพิจารณา อาทิ ออกมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการ ทั้งป้องกันและลดกระทบจากโควิด-19 ด้วยการลดหย่อนภาษีหรือสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนในการฉีดวัคซีนโควิดในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ส่วนการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ขอให้ยกเลิกมาตรการคุมเข้มสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ (แอลทีวี) ชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีกำลังซื้อ สามารถซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนได้ การช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านก่อสร้าง เช่น โครงการบ้านดีมีดาวน์ รวมทั้งแนวทางโกดังเก็บหนี้ เป็นต้น “รมว.คลัง รับเรื่องไว้แล้ว จะเร่งพิจารณาให้ และภายใน 2 สัปดาห์จะทราบความคืบหน้าว่าแต่ละเรื่องจะมีแนวทางช่วยเหลือ และแก้ปัญหาอย่างไร”.