เรื่องที่ต้องรู้?
ปัญหาปากท้องเป็นสิ่งที่ผูกพันกับ “คน” อย่างแยกไม่ออกยิ่งในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยและตกต่ำไปทั่วโลกอย่างนี้
ต้องเอาข้อมูลและภาพสะท้อนที่เป็นจริงมาว่ากัน
แน่นอนว่าประเทศไทยก็ตกอยู่ในภาวะนี้ ซึ่งรัฐบาลกำลังถูกรุมถล่มจากฝ่ายค้าน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพูดอีกก็ถูกอีก แต่มันต้องดูจากสภาพปัญหาจึงจะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อเตรียมรับมือกับมันให้ได้
มีข้อมูลจาก Brandinside Asia ที่ได้เสนอผลสำรวจกลุ่มมหาเศรษฐีจากยูบีเอสเกินครึ่งเชื่อว่า “เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ช่วงถดถอยในปี 2020”
มหาเศรษฐีเหล่านี้มีสินทรัพย์หลักพันล้านเหรียญสหรัฐฯ พูดง่ายๆว่ารวยจริงไม่ใช่พวก “กำมะลอ” ตัวเลขก็ประมาณ 36,684 ล้านบาท
สถาบันการเงินจากสวิส (ยูบีเอส) ได้สำรวจพบว่า 55% เชื่อว่าถดถอย แต่อีก 44% ไม่เชื่อ แต่การที่สหรัฐฯเปิดสงครามการค้ากับจีนส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกมากถึง 68%
กลุ่มมหาเศรษฐีในเอเชียจะเน้นการรักษาเงินต้นเป็นหลักถึง 23% สหรัฐฯจะเน้นพอร์ตการลงทุนที่เติบโตถึง 31%
ที่แน่นอนพวกเขาไม่เชื่อว่า “เบร็กซิต” จะทำให้สินทรัพย์ในอังกฤษน่าสนใจ
เทรดประชานิยมในทวีปยุโรปจะยังคงดำรงอยู่ กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจะยังคงมีการเติบโตต่อไป
หากความเสี่ยงเริ่มเพิ่มมากขึ้นกลุ่มมหาเศรษฐีเหล่านี้จะมีการโยกย้ายสินทรัพย์ไปยังสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ตราสารหนี้ เงินสด เป็นต้น
แต่สถานการณ์ในสหรัฐฯได้ย้ายสินทรัพย์มาอยู่ในที่ปลอดภัยกันบ้างแล้ว แต่ไม่ลืมจะนำเงินส่วนหนึ่งพักไว้เผื่อได้สินทรัพย์ราคาดีในช่วงตลาดมีปัญหา
นั่นก็เป็นเรื่องที่ว่ากันถึงความเป็นไปของปัญหาเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีแนวโน้มจะถดถอยลงอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
ปัญหาหลักคือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีน
อย่างที่บรรดามหาเศรษฐีระดับโลกมีความเห็นไปในทางเดียวกัน แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆเป็นองค์ประกอบคือ ความขัดแย้งทางการเมืองที่แยกไม่ออก
จีนนั้นเพิ่งฉลองวันชาติครบ 70 ปี เมื่อวันที่ 1 ต.ค.62 ด้วยการจัดอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศอย่างรอบด้าน
ความสมานสามัคคีของคนในชาติที่มีประชากรมากที่สุดในโลกล้วนเป็นแรงผลักดันให้จีนเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจนทำให้ความเติบโตด้านเศรษฐกิจอยู่ในลำดับต้นๆของโลก
ที่มีปัญหาก็ตรงที่ “ฮ่องกง” ซึ่งเป็น “ติ่งปัญหา” ที่ยังไม่มีใครคาดการณ์ว่าจะลงเอยด้วยวิธีการไหน แต่ดูเหมือนว่าจีนต้องใช้ความพยายามที่จะแก้ไขด้วยความใจเย็น
เพื่อไม่ให้เกิดผลสะเทือนมากนัก
ก็แน่ละ...ปัญหานี้สหรัฐฯเกาะติดอยู่ตลอดเวลาเพื่อใช้เป็นเงื่อนไขและสร้างอำนาจต่อรองสูงเพิ่มขึ้น
แต่ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” เองก็กำลังเจอเรื่องใหญ่
เมื่อสภาสูงสหรัฐฯกำลังดำเนินการเพื่ออิมพีชเมนต์ หรือการถอดถอนด้วยข้อหาว่าผู้นำประเทศได้ไปก่อวีรกรรมสมคบยูเครนเพื่อทำลายอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ไม่รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไรแต่ก็เล่นเอา “ทรัมป์” และรัฐบาลของเขาต้องหาวิธีการเพื่อแก้ลำและทำให้สถานภาพของผู้นำสหรัฐฯไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่จะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะถดถอยแน่.
“สายล่อฟ้า”