ชวนลูกค้าใช้บ้านสร้างอาชีพ

3แบงก์รัฐงัดสิทธิพิเศษดอกเบี้ยต่ำ-ค้ำประกัน4ปี

นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคาร อาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ได้ลงนามร่วมกับ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศ ไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ทำโครงการสร้างบ้านสร้างอาชีพ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสินเชื่อที่อยู่อาศัยในระบบ ด้วยการให้ลูกค้า ธอส.ที่มีบ้านอาศัยอยู่แล้ว แต่ต้องการสร้างอาชีพให้สามารถขอสินเชื่อจากเอสเอ็มอีแบงก์ได้ โดย บสย.จะเป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อ ส่วนลูกค้าเอสเอ็มอีแบงก์ และ บสย. ต้องการขยายกิจการ ก็สามารถขอสินเชื่อกับ ธอส.ได้ด้วยอัตรา ดอกเบี้ยต่ำ

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ธอส.พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ลูกค้าของเอสเอ็มอี แบงก์ และ บสย.ที่ต้องการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการแฟลต/อพาร์ตเมนต์ หรือสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย สามารถเลือกใช้สินเชื่อของ ธอส. ภายใต้นโยบาย “คนไทยมีบ้าน” พร้อมให้ยื่นกู้ภายในวันที่ 28 ธ.ค. 2561 เช่น โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐวงเงิน 20,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี คงที่นาน 4 ปีแรก ปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ หากกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม และไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัย สำหรับลูกค้ารายย่อยรายได้สุทธิไม่เกิน 25,000 บาท วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า ธนาคารพร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้า ธอส. ที่ต้องการสร้างอาชีพใช้บ้านอยู่อาศัยค้ำประกัน เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ 3% โดย บสย.ค้ำประกันฟรี 4 ปี เน้น กลุ่มท่องเที่ยวและต่อเนื่อง เกษตรแปรรูป ที่อาศัยอยู่ในชุมชน ท่องเที่ยว สามารถขอสินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1% ปลอด ชำระเงินต้น 3 ปีแรก เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีปัญหาการเงิน สามารถกู้และขอสินเชื่อสร้างอาชีพวัยเก๋า ซึ่งให้ผู้สูงอายุเข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้นตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป จนถึง 75 ปี เป็นต้น.