หุ้นไทยปี 68 ปัจจัยกดดันเพียบ ทิสโก้แนะเลือกหุ้นต้านแรงเสียดทานได้สูง

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

หุ้นไทยปี 68 ปัจจัยกดดันเพียบ ทิสโก้แนะเลือกหุ้นต้านแรงเสียดทานได้สูง

Date Time: 6 ม.ค. 2568 09:00 น.

Summary

  • บล.ทิสโก้ ชี้ปี 68 ตลาดหุ้นไทยจ่อเจอปัจจัยกดดันเพียบ! ทั้งนโยบายของ“ทรัมป์” และเศรษฐกิจไทยที่เผชิญสงครามการค้า รวมทั้งกำไร บจ.อาจถูกปรับลด และการเมืองในประเทศส่อแววร้อนแรง แนะลงทุนปีนี้ต้องเน้นความปลอดภัย

Latest

ธนาคารกรุงเทพ กำไรปี 67 พุ่ง 8.6% ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท รายได้ดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียมโต

บล.ทิสโก้ ชี้ปี 68 ตลาดหุ้นไทยจ่อเจอปัจจัยกดดันเพียบ! ทั้งนโยบายของ“ทรัมป์” และเศรษฐกิจไทยที่เผชิญสงครามการค้า รวมทั้งกำไร บจ.อาจถูกปรับลด และการเมืองในประเทศส่อแววร้อนแรง แนะลงทุนปีนี้ต้องเน้นความปลอดภัย ที่สามารถต้านแรงเสียดทานจากปัจจัยภายในและภายนอกได้

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยปี 68 ว่า ตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญความไม่แน่นอนรอบด้าน โดยเฉพาะนโยบายนายโดนัล ทรัมป์ ที่ต้องการหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอาจเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระยะยาว ทำให้วัฏจักรดอกเบี้ยโลกขาลงอาจจบรอบเร็วกว่าคาด จากการประเมินของ บล.ทิสโก้ หากทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีตามที่หาเสียงไว้ อาจส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นได้ถึง 1.2%

นอกจากนี้ บล.ทิสโก้ มองประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 68 คาดว่าจะเติบโตราว 3% มีความเสี่ยงจากประเด็นการกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยความท้าทายที่ต้องจับตาใกล้ชิด จากการประเมินเบื้องต้นอาจกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยราว 0.3-1.1% ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของสงครามการค้าจากสหรัฐฯ ทั้งอัตราการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าและจะถูกขยายวงกว้างไปยังประเทศอื่นๆ ที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯมากน้อยเพียงใดด้านกำไรต่อหุ้นของตลาด (SET EPS) ปี 68 ที่คาดเติบโตราว11-12% ยังมีความไม่แน่นอนสูง เพราะหลายปีที่ผ่านมา คาดการณ์ SETEPS มักถูกปรับลงจากช่วงต้นปีเสมอ ซึ่งเป็นผลจากบริษัทจดทะเบียนมักมีการด้อยค่าสินทรัพย์และ/หรือค่าใช้จ่ายพิเศษในระหว่างปีจากความผันผวนของราคาน้ำมันและค่าเงินบาท ซึ่งปี 68 ความคาดเดาได้ยากของ “ทรัมป์” จะเป็นความเสี่ยงที่สำคัญของราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆทั่วโลก

สำหรับปัจจัยการเมืองปีนี้ส่อแววร้อนแรงขึ้นกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากปัจจุบันมีคำร้องที่เป็นปรปักษ์กับรัฐบาลชุดปัจจุบันอยู่หลายกรณี ทั้งที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร และนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุชุมนุมทางการเมืองจากประเด็นต่างๆที่อาจถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นเงื่อนไขทางการเมือง เช่น ปัญหาMOU 44, การนิรโทษกรรมและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นต้น โดยทิสโก้มองปัจจัยการเมืองจะมีน้ำหนักกดดันตลาดมากขึ้นตั้งแต่ปลายไตรมาส 1 ปีนี้ เป็นต้นไป เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบต่างๆ คาดว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ผสานกับปีนี้จะเป็นปีแรกที่เงินกองทุน LTF รวมทั้งสิ้น2.30 แสนล้านบาท สามารถขายได้ครบทุกกอง(ข้อมูล ณ สิ้นเดือน พ.ย.67) อาจเป็นปัจจัยกดดันตลาดในต้นปีนี้ เพราะโดยปกติเงินกองทุน LTFมักถูกขายคืนช่วงต้นปีมากที่สุด ท่ามกลางความไม่แน่นอนรอบด้าน

บล.ทิสโก้ มองการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ ต้องเน้นความปลอดภัย สามารถต้านแรงเสียดทานจากปัจจัยภายในและภายนอกได้ เน้นกระจายการลงทุนใน 3 ธีม ดังนี้ 1.หุ้นเชิงรับคุณภาพดี แนะนำ BDMS และ BEM 2.หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรไตรมาส 4 ดีต่อเนื่องถึงไตรมาส1แนะนำSPA และTASCO 3.หุ้นปันผลเด่นเน้นที่อยู่ในSETHD Index แนะนำ ADVANC- SIRI และ TTB.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ