ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 31 ม.ค.67 ปิดที่ 1,364.52 จุด ลดลง 8.62 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 48,921.25 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTTEP ปิด 150 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท, ADVICE ปิด 5.25 บาท บวก 2.01 บาท, AOT ปิด 59.75 บาท ลบ 0.75 บาท, KBANK ปิด 120 บาท ลบ 1.50 บาท, KTB ปิด 15.90 บาท ลบ 0.20 บาท
ประเด็น ศาล รธน.มีคำวินิจฉัย พิธา-พรรคก้าวไกล ใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและสั่งการให้เลิกการกระทำ การพิมพ์ การโฆษณา เพื่อให้ยกเลิก ม.112 อีกทั้งไม่ให้มีการแก้ไข ม.112 ด้วย
บล.ทิสโก้ มอง SET Index มีแนวโน้มอ่อนตัวลงทดสอบ 1,360 และ 1,350 ตามลำดับ จากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจเพิ่มขึ้น หาก SET Index หลุดระดับ 1,350 ทำจุดต่ำใหม่ แนะขายกระชับพอร์ตลดความเสี่ยง เข้าสู่โหมด Wait & See รอประเมินสถานการณ์
อย่างไรก็ดี ทิสโก้มองเป็นจังหวะสะสมหุ้นปันผล หุ้นที่อยู่ใน SETHD ที่คาดจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่เหลือสูงกว่าระดับ 4% ขึ้นไป และตลาดประเมิน Upside มากกว่า 20% ขึ้นไป คือ AP, ORI, TASCO, KTB, LH นอกจากนี้ หุ้นปันผลที่แนะนำลงทุนแบบ DCA ในปีนี้ คือ MAJOR, MC, PTT, SCB, SPALI
บล.เอเซียพลัส คาดสร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นในช่วงสั้นๆ
ขั้นตอนถัดไป คือ กกต. สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นได้ (ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองมาตรา 92)
ขณะเดียวกันทางฝั่ง ป.ป.ช.ก็สามารถพิจารณาว่าผิดต่อหลักจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ (ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 219 วรรค 2, มาตรา 235) ซึ่งหากศาลวินิจฉัยแล้วว่าผิดจริง โทษสูงสุดคือ การตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตหากประเด็นดังกล่าวถูกหยิบยกขึ้นมา
อาจสร้างแรงกดดันต่อตลาดให้ฟื้นตัวได้ช้า พร้อมกับ Fund Flow ชะลอการไหลเข้า!!
อินเด็กซ์ 51
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่