หุ้นดีครึ่งเดือนแรก!!

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

หุ้นดีครึ่งเดือนแรก!!

Date Time: 3 พ.ค. 2566 05:14 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 พ.ค.66 ปิดที่ 1,528.43 จุด ลดลง 0.69 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 39,979.71 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,486.64 ล้านบาท

Latest

ทิสโก้คาดเศรษฐกิจปี 68 โต 3% ยอมเสี่ยงสูงขึ้นลุยขยายพอร์ตเจาะ “รายย่อย” ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่โต 10%

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 พ.ค.66 ปิดที่ 1,528.43 จุด ลดลง 0.69 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 39,979.71 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,486.64 ล้านบาท

“ณัฐชาต เมฆมาสิน” ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ มองทิศทางการลงทุนเดือน พ.ค.66 ว่า ตลาดจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งเดือนแรก จากปัจจัยหนุนทั้งภายในและภายนอก โดยปัจจัยภายใน คือปรากฏการณ์ Election rally ที่มักเกิดขึ้นก่อนหน้าการเลือกตั้งจริงราว 2 สัปดาห์ ซึ่งน่าจะทำให้เกิดแรงเก็งกำไรในกลุ่มหุ้น Domestic ขึ้นมาได้

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ มองว่าจะมี Buy on Fact เกิดขึ้นหลังการประชุม FOMC วันที่ 3 พ.ค.66 ประเมินว่าการประชุมครั้งนี้มีโอกาสน้อย ที่จะเกิด Surprise ในทางลบ จากการที่จะไม่มีการเผยแพร่ประมาณการ Dot plots รอบใหม่ รวมถึงโทนของ Statement และการให้สัมภาษณ์ของ Jerome Powell ที่ไม่น่าจะมีทิศทาง Hawkish มากนักแล้ว

แต่ช่วงครึ่งเดือนหลัง โดยเฉพาะหลังจากการเลือกตั้งราว 1 สัปดาห์แนะนำให้ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลการเลือกตั้งที่ออกมาไม่สามารถก่อให้เกิดกรณีที่พรรคแกนนำสามารถรวมเสียงได้เกิน 375 ที่นั่ง คาดว่าอาจเห็นปรากฏการณ์ Sell on fact ภายหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นได้ราว 1 สัปดาห์

นอกจากนั้น ในส่วนของปัจจัยด้านนโยบายการเงิน หากที่ประชุมกนง.ในวันที่ 31 พ.ค.มีมติให้ขึ้นดอกเบี้ยต่ออีก 0.25% ไปอยู่ที่ 2.00% จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ PE Contraction ขึ้นในตลาดได้ ส่งผลให้ระดับ PE Multiple ที่เหมาะสมในตลาดจะถูกลดทอนลงมาจนกระทบกับระดับ SET ที่เหมาะสมในกรณีต่างๆด้วยเช่นกัน

เชิงกลยุทธ์แนะนำถือครองหุ้นที่ได้เข้าสะสมมาก่อนหน้านี้ เพื่อคาดหวังการขายทำกำไรในช่วงกลางเดือน พ.ค. หรืออย่างช้าหลังจากการเลือกตั้งราว 1 สัปดาห์ โดยกลุ่มหุ้นที่แนะนำถือครองยังคงได้แก่ กลุ่มภาคบริการของไทยที่ยังเห็น Demand แข็งแกร่งได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น ทนทานต่อแรงกดดันเงินเฟ้อ และมักอยู่ในธีม Election rally ในอดีต อย่างกลุ่มธนาคาร (BBL, KTB) โรงพยาบาล (BH, BDMS) และค้าปลีก (CPALL, MAKRO, BJC)

ผสมผสานกับกลุ่มหุ้นที่มีธีมสนับสนุนในช่วง 1 เดือนข้างหน้า เช่น หุ้นที่ บล.ทรีนีตี้คำนวณว่าจะถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไป ซึ่งได้แก่ TLI และ WHA ส่วนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเลือกตั้ง ที่อาจเป็นสีสันสำหรับการเก็งกำไรในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือน มองหุ้น SC, SIRI, PR9 เด่น เป็นต้น.

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ