ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ก.พ.66 ปิดที่ 1,682.58 จุด ลดลง 3.17 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 62,319.50 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,663.90 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด DELTA ปิด 916 บาท บวก 18 บาท, PTTEP ปิด 170 บาท ลบ 3 บาท, BBL ปิด 161.50 บาท บวก 1.50 บาท, HANA ปิด 65 บาท บวก 4.50 บาท, KBANK ปิด 144 บาท ลบ 0.50 บาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเดือน ก.พ.66 ดัชนีน่าจะตอบรับเชิงบวก มีปัจจัยหนุนจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เริ่มทรงตัวในระดับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ประกอบกับการทยอยประกาศงบของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่น่าจะออกมาเป็นบวก และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สูงขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาน่าจะผ่านจุดต่ำสุดของปีนี้แล้วและอาจทำให้นักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการของหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ด้านเทคนิคประเมินแนวรับตลาดเดือน ก.พ.นี้ ไว้ที่ 1,650-1,668 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,700-1,720 จุด กลยุทธ์ลงทุน แนะถือหุ้นในพอร์ตสัดส่วน 70% เน้นเข้าซื้อช่วงที่ตลาดย่อตัวลงมา ส่วนหุ้น Top Pick ที่แนะนำลงทุน เดือน ก.พ. ได้แก่ GULF, CRC, AAV, BE8, SCGP, SAPPE และ AP
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)มองหุ้นไทยเดือน ก.พ. มีโอกาสฟื้นตัวได้ดี ตอบรับเศรษฐกิจฟื้นตัว ทั้งเรื่องการเปิดประเทศจีนหนุนการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้สำคัญในประเทศ รวมถึงการเลือกตั้งในประเทศ แนะลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวและการเปิดเมือง ทั้ง CENTEL, CPALL, BA รวมทั้ง SIRI, ILM ธีมรถยนต์ไฟฟ้า AH, HANA และปิโตรเคมี PTTGC
ด้านเทคนิคให้แนวต้าน 1,700–1,720 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,660 จุด
ปิดท้าย บล.ยูโอบี เคย์เฮียน แนะให้ลงทุนกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเมืองเช่นกัน ซึ่งหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวได้มีการเก็งกำไรกันไปก่อนแล้ว แนะหุ้นที่ได้อานิสงส์เปิดเมืองในกลุ่มถัดไปคือค้าปลีก MAKRO, CPALL, BJC, MAJOR, VRANDA, SPA, S หุ้นปิโตรเคมีที่ปีนี้คาดว่าจะกลับมาฟื้นได้ตามจีนเปิดเมือง ชอบ PTTGC
และกลุ่มไฟแนนซ์ที่ลูกค้าชำระหนี้ได้มากขึ้นจากเศรษฐกิจฟื้นตัว SAWAD, MTC, TIDLOR และ AMANAH!!
อินเด็กซ์ 51