หุ้นน่าลงทุนเดือนธันวา!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ธ.ค.65 ปิดที่ 1,641.63 จุด ลดลง 6.81 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 53,751.05 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 5,168.59 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด DELTA ปิด 772.00 บาท บวก 8 บาท, PTTEP ปิด 182.50 บาท ลบ 3.50 บาท, CPALL ปิด 64.75 บาท ลบ 1 บาท, BDMS ปิด 29 บาท ลบ 0.25 บาท, AOT ปิด 73.75 บาท ลบ 0.25 บาท

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินดัชนีหุ้นไทยเดือน ธ.ค. แกว่งในกรอบ 1,620-1,690 จุด มองว่าความเสี่ยงในตลาดหุ้นไทยเริ่มผ่อนคลายลง ตามสัญญาณการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ช่วยหนุนให้นักลงทุนต่าง

ประเทศยังมีสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทย แนะลงทุนหุ้น MAJOR ให้ราคาเป้าหมาย 24 บาท, EGCO ให้ราคาเป้าหมาย 200 บาท, BBL เป้า 168 บาท, MINT เป้า 35 บาท, CPALL เป้า 73 บาท และหุ้น GUNKUL ให้เป้า 6 บาท

ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินกรอบ SET Index เดือน ธ.ค. เคลื่อนไหว 1,610-1,670 จุด ภาพรวมการลงทุนผ่อนคลายมากขึ้น จากเศรษฐกิจในประเทศเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ตามการท่องเที่ยวฟื้นตัว และการบริโภคที่เร่งตัวขึ้น นอกจากนี้ยังคาดว่าจะได้แรงเสริมจากแนวโน้ม Fed ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรง และเงินเฟ้อในประเทศเริ่มควบคุมได้มากขึ้น ทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น หนุน Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง

แนะนำลงทุนหุ้นรายดังนี้ หุ้น BBIK ให้ราคาเป้าหมาย 144.7 บาท, JMT ให้ราคาเป้าหมาย 81.61 บาท, CPALL ให้เป้า 79 บาท, PLANB ให้เป้า 9.6 บาท, BCH ให้เป้า 22.58 บาท

ขณะที่ บล.ไอร่า ให้กรอบ ดัชนีเดือน ธ.ค. 1,614-1,650 จุด และคาดว่าปริมาณการซื้อขายจะเบาบางลง เพราะเป็นช่วงสุดท้ายของปี ส่วนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ช่วงกลางเดือน คาดว่าจะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตราชะลอตัวลง ซึ่งจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อเศรษฐกิจเอเชียและตลาดหุ้นไทย

แนะนำลงทุนหุ้นเด่นรายตัว KBANK ให้ราคาเป้าหมาย 185.4 บาท, BBL ให้เป้า 170 บาท, BJC ให้เป้า 39.6 บาท และหุ้น MAKRO ให้เป้า 42 บาท!!

อินเด็กซ์ 51