ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 มิ.ย.65 ปิดที่ 1,568.33 จุด ลดลง 17.85 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 71,991.49 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,369.02 ล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อ ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นเอเชียที่เผชิญแรงขายทั่วหน้า หลังการประชุม Fed และ ECB ได้ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อสูงทำให้ตลาดมองว่า เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยได้มากขึ้น ส่งผลให้มีการเทขายหุ้นทั่วโลก
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีแรงขายหุ้นใหญ่ออกมากดดันตลาดในภาพรวม นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน สื่อสาร และค้าปลีก แม้จะมีปัจจัยหนุนจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ยังต้องระวังโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เดินทางมาจากต่างประเทศ
บล.หยวนต้า ชี้ว่า ธปท.รายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือน พ.ค.65 ดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน โต 0.6% MoM และ 11.3% YoY ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน +0.6% MoM, +3.8% YoY ส่วนการส่งออก +11.3% YoY ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรและอาหารเครื่องดื่มที่โตดี และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เร่งขึ้น
กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้นคือ ส่งออกอาหาร โรงแรมและ ร้านอาหาร และการขนส่ง สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการ 2Q65 ของกลุ่ม เหล่านี้ที่จะเห็นการเติบโตต่อเนื่อง เช่น TU, CFRESH, ASIAN, M เป็นต้น
ปิดท้าย บล.เอเซียพลัส แนะนำ “ซื้อ” หุ้น CRC ชี้ฟื้นตัวเด่นสุดในกลุ่มค้าปลีกมองแนวโน้มกำไร 2Q65 จะโต YOY และสามารถลุ้นเติบโต QoQ โดยได้แรงขับเคลื่อนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมช่วงเดือน เม.ย.–พ.ค. ในทุกกลุ่มสินค้า (สินค้าแฟชั่น, ฮาร์ดไลน์ และกลุ่มอาหาร) ในระดับราว 20–25% YOY นำโดยสินค้าแฟชั่นที่เติบโตแรงสุด
ปัจจัยอื่นที่ขับเคลื่อนกำไร 2Q65 ยังคงมาจากอัตรากำไรขั้นต้น ที่ประเมินว่ายังคงอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากบริษัทได้ทำการปรับราคาสินค้าขึ้นไปแล้วในบางส่วน (จากภาวะเงินเฟ้อ), สัดส่วนการขายสินค้ากลุ่มแฟชั่นที่ดีขึ้น (มาร์จิ้นดี) และการปรับส่วนลดให้แก่ผู้เช่าพื้นที่ทยอยลดลง
ผลประกอบการที่อยู่ในช่วง Turnaround และแนวโน้มกำไรที่ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยถือว่า CRC เป็นหุ้นที่ฟื้นตัวเด่นที่สุดในกลุ่มค้าปลีก!!
อินเด็กซ์ 51