หุ้นใหญ่!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ก.ย. 64 ปิดที่ 1,650.33 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 78,707.76 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,455.33 ล้านบาท

“ภากร ปีตธวัชชัย” กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกโรงเตือน ขอให้นักลงทุนระมัดระวังก่อนเข้าซื้อขายในหุ้น บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาและปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อ 2 ก.ย. ราคาปรับขึ้น +33.21% จาก 560 บาท มาปิดในการซื้อขายภาคเช้า ที่ 746 บาท ด้วยค่า PE ที่ 121.87 เท่า มูลค่าซื้อขายสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่า Market cap อยู่ที่ 930,547 ล้านบาท แม้ DELTA จะได้ชี้แจงผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 2 ก.ย.64 ว่า ไม่มีพัฒนาการใดๆที่สำคัญที่จะกระทบต่อปริมาณและราคาซื้อขายหลักทรัพย์

ดังนั้น นักลงทุนจึงควรระมัดระวัง และศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนการตัดสินใจซื้อขาย!!

บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า พลังเก็งกำไรหุ้นสภาพคล่องต่ำ มีส่วนช่วยหนุน ดัชนีตลาดภาพรวม SET แนะนำหุ้น ADVANC -SCC-AOT โดย เพียงแค่ 9 วันทำการ (23 ส.ค.-2 ก.ย.64) SET Index ปรับขึ้นมาเร็วมาก 94.6 จุด หรือ 6.1% จนทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1,643 จุด มาอยู่ที่ 1,647.75 จุด (สูงสุดในรอบ 8 เดือน) โดยหนึ่งในแรงผลักดัน สำคัญเกิดจากการเก็งกำไรหุ้นใหญ่ที่มีการถือครองของรายย่อย (Free Float) ในระดับต่ำ

ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯทำการคัดกรองจากหุ้นที่มีโอกาสถูกเก็งกำไรจากประเด็นนี้ โดยเลือกเฉพาะหุ้นที่มี Free Float ไม่เกิน 30% และมี Market Cap มากกว่า 1 แสนล้านบาท ได้ผลลัพธ์ 12 บริษัท คือ DELTA-MAKRO-BAY-INTUCH-GULF-AOT-GPSC-CBG-OR-BJC-AWC-SCGP

หากดูผลตอบแทนของ 12 หุ้น พบว่า ส่วนใหญ่จะ Outperform ตลาดได้ดี อาทิ DELTA ปรับขึ้น 33%, MAKRO 25%, BAY 12%, INTUCH 9%, GULF 6.5% ขณะที่ดัชนีตลาดปรับขึ้น 6.1% และถ้ามัด 12 หุ้นรวมกันจะช่วยหนุนดัชนีตลาดขึ้นมาถึง 36 จุด จากที่ขึ้นมาทั้งหมด 94.6 จุด

แม้การเก็งกำไรหุ้นใหญ่ที่มีสภาพคล่องต่ำจะมีโอกาสได้ผลตอบแทนดีในช่วงเวลาสั้น แต่หากจบรอบของการเก็งกำไรก็มีความเสี่ยงที่จะปรับฐานแรงเช่นกัน ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุน แนะหุ้นที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการเข้ามาเก็งกำไรจากหุ้นสภาพคล่องต่ำน่าจะปลอดภัยมากขึ้น อย่าง ADVANC (ได้แรงหนุนจาก INTUCH ขยับขึ้น), SCC (ได้แรงหนุนจาก SCGP ขยับขึ้น) และหนุนมีแรงบวกเฉพาะตัว AOT!!

อินเด็กซ์ 51