ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ก.ย.64 ปิดที่ 1,647.75 จุด บวก 13.27 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 101,413.00 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,342.84 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด DELTA ปิด 726 บาท บวก 70 บาท, CPALL ปิด 64 บาท ลบ 1 บาท, CV ปิด 3.92 บาท บวก 0.02 บาท, GULF ปิด 41.25 บาท ลบ 0.25 บาท, ADVANC ปิด 188.50 บาท บวก 2.50 บาท
หุ้นไทยปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และการเวียนกลุ่มเล่นจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก โรงไฟฟ้าโยกไปเล่นหุ้นเป็นกลุ่มสื่อสาร ขณะที่หุ้น DELTA ที่ยังคงปรับตัวขึ้นแรง หนุนดัชนีตลาดภาพรวมปรับตัวขึ้นกว่า 7 จุด
ฝ่ายวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์มองสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในประเทศเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ทั้งยอดผู้ติดเชื้อใหม่และยอดผู้เสียชีวิตรายวันที่ลดลง ขณะที่ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้ปัญหาเตียงตึงตัวก็เริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้รัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ระยะแรก 1 ก.ย.นี้ และบล.ทิสโก้ คาดว่าจะมีการทยอยปลดล็อกดาวน์เพิ่มขึ้นเป็นระยะตลอดช่วง 1-2 เดือนนี้
แต่แม้ความหวังการระบาดและแผนการจัดหาวัคซีนที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนหุ้นไทยรอบนี้ให้ดีดกลับขึ้นมาทะลุระดับ 1,600 จุด ได้อีกครั้ง จากกระแสเงินทุนไหลกลับ แต่ บล.ทิสโก้มองว่า ดัชนีหุ้นไทยอาจไปได้ไม่ไกลหรือขาดความมั่นคง จาก 2 ปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่มักกำหนดแนวโน้ม SET Index คือ ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ และผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยยังคงฟื้นตัวได้ช้า
บล.ทิสโก้ประเมินระดับ SET Index ที่เหมาะสมสำหรับไตรมาส 4 ปีนี้ อยู่ที่ 1,595-1,643 จุด ทำให้ Upside ตลาดปีนี้ยังค่อนข้างจำกัด
แนะกลยุทธ์ลงทุนเดือนนี้ เน้นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการทยอยเปิดเมือง (Re-opening) และคาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐ ทั้งด้านการบริโภคและการลงทุนช่วงที่เหลือของปีนี้ กลุ่มการเงิน แนะนำ AEONTS และ SCB กลุ่มพาณิชย์-ค้าปลีก แนะนำ COM7 และ CRC กลุ่มอื่นๆ แนะนำ STEC และ SPA นอกจากนี้ยังแนะหุ้นส่งออกใน SET100 ที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะ คือ CPF และ HANA
คัดหุ้นเด่นเดือน ก.ย.คือ AEONTS, COM7, CPF, CRC, HANA, SCB, SPA และ STEC!!
อินเด็กซ์ 51