วายแอลจี เผยทองคำเดือน พ.ย.ผันผวนช่วงแรก เหตุเพราะผลเลือกตั้งสหรัฐฯ คาดระหว่างวันราคาอาจผันผวนขึ้น-ลง มองระยะยาว 1-2 ปี ราคายังพุ่ง มีโอกาสแตะแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เมื่อวันที่ 4 พ.ย.63 นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในเดือน พ.ย.63 ช่วงแรกอาจจะมีความผันผวน เนื่องจากนักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามแม้ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ยังต้องใช้เวลา ดังนั้นนักลงทุนจึงยังให้น้ำหนักกับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะช่วงนี้ที่หลายประเทศในยุโรปเริ่มล็อกดาวน์รอบ 2 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจึงยังอยู่ในระดับที่นักลงทุนต้องจับตา อย่างไรก็ดีในช่วงนี้ราคาทองคำปรับลดลงมาส่วนหนึ่ง เป็นเพราะปรับพอร์ตเพื่อรอดูทิศทางของการเลือกตั้ง และการส่งมอบตำแหน่งหลังเลือกตั้งจะราบรื่นหรือไม่ จึงทำให้นักลงทุนบางส่วนขายทองคำออกมา ทั้งนี้ราคาทองคำที่ปรับลดลงมานั้นถือว่าเข้าใกล้แนวรับที่ให้ไว้ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 27,200 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งหากหลุดแนวรับดังกล่าวจะลงไปทดสอบ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 26,500-26,600 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งหากดูราคาทองคำในปัจจุบันจะเห็นว่าราคาเข้าใกล้แนวรับมากแล้ว ดังนั้นโอกาสปรับลดลงจึงมีอีกไม่มาก
สำหรับภาพรวมระยะกลางและระยะยาวของทองคำนั้น ยังคงเป็นขาขึ้น มองว่ายังคงมีโอกาสไปทดสอบแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ดังนั้นหากราคาทองปรับลดลงมาที่แนวรับ สามารถใช้เป็นจังหวะในการเข้าซื้อสะสมได้ โดยนักลงทุนอาจกระจายความเสี่ยงในการเข้าซื้อ ด้วยการแบ่งเงินทุนออกเป็น 3 ส่วน แล้วทยอยซื้อทีละส่วน ซึ่งสัดส่วนการลงทุนทองคำที่ดีนั้นควรอยู่ที่ 5-10% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ยังคงมีการนับคะแนนผลการเลือกตั้ง นักลงทุนก็ยังสามารถจับจังหวะเล่นรอบทำกำไรในการลงทุนระยะสั้นได้ เนื่องจากราคาทองคำอาจจะผันผวนระหว่างวัน แกว่งตัวขึ้นลงได้ถึง 50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่มองว่าจะเป็นการแกว่งตัวแรงๆ แค่ในระยะสั้นเท่านั้น เพราะทิศทาง 1-2 ปี ราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น เพราะปัจจัยเศรษฐกิจของโลกยังไม่ฟื้นตัวในเวลารวดเร็ว อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งในสัปดาห์นี้ธนาคารกลางสหรัฐฯจะมีการประชุมและคาดการณ์ว่าจะคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำไว้เช่นเดิม ซึ่งก็จะส่งผลบวกต่อตลาดทองคำ.