ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ม.ค.63 หุ้นไทยปิดที่ 1,595.82 จุด เพิ่มขึ้น 15.98 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 54,494.00 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิหนาแน่น 5,107.59 ล้านบาท
ขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นๆขายสุทธิทั้งหมด นำโดยรายย่อยฉวยโอกาสขายทำกำไร โดยขายสุทธิ 4,398.67 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิ 682.72 ล้านบาท ขณะที่ต่างชาติยังไม่กลับเข้าตลาด โดยขายสุทธิ 26.20 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด CPALL ปิด 71 บาท ลบ 1.25 บาท, BAM ปิด 19.70 บาท บวก 1.60 บาท, PTT ปิด 45.50 บาท บวก 1.50 บาท, IVL ปิด 36.25 บาท บวก 1.25 บาท และ IRPC ปิด 3.94 บาท บวก 0.26 บาท
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงรับเปิดการซื้อขายวันแรกของปีหนูทอง 2563 รับปัจจัยบวกเรื่องสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาออกมาเผยว่าเตรียมลงนามข้อตกลงการค้ากับจีนในวันที่ 15 ม.ค.นี้
บทวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี ระบุว่า ให้เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปี 63 ที่ 1,700 จุด อิง P/E 15 เท่าของ FY21F โดยสัญญาณที่มองว่าหุ้นไทยจะขยับตัวขึ้นได้อย่างจริงจังช่วงต้นปี คือ ดัชนีหุ้นไทยขณะนี้ยังไปไหนได้ไม่ไกล ขณะที่ตลาดเพื่อนบ้านปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 62 ไปแล้ว ขณะที่แรงกดดันหรือปัจจัยลบต่างๆ ราคาหุ้นหรือดัชนีตลาดปรับตัวลงมารับข่าวระดับหนึ่งแล้ว
ขณะที่ด้านเทคนิคการปรับตัวลงลึกๆในช่วง ธ.ค. หลายรอบที่ผ่านมา ดัชนีมักจะดีดกลับในช่วงปลายปี หรืออย่างช้าสัปดาห์แรกของเดือน ม.ค. ที่สำคัญที่คาดว่าตลาดจะดีดตัวขึ้นแรงในช่วง ม.ค.ได้ คือสถิติเมื่อดัชนีปรับลงมาแล้วไม่หลุดเส้น -2SD หลังจากนั้นอีก 1 เดือน ดัชนี SET จะดีดตัวขึ้นได้ราว 5%
ประเมินว่าเปิดตลาดขึ้นมาในช่วงต้นปี 63 ดัชนีหุ้นไทยน่าจะดีดตัวขึ้นในระดับ 1,590-1,600 จุด จากแรงหนุนของกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะดีดตัวกลับได้ดี ช่วงที่ตลาดหุ้นโลกจะขึ้นต่อ คือกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีและธนาคาร ตามมาด้วยกลุ่มที่ราคาหุ้นโดนกดดันมาก่อนหน้านี้ เช่น กลุ่มปูนซิเมนต์ ค้าปลีก สื่อสารและท่องเที่ยว
แนะนำ Overweight กลุ่มธนาคาร, กลุ่มการแพทย์และกลุ่มอุปโภคบริโภค
ส่วนหุ้น Top pick คือ AOT, AP, BCH, CHG, CPF, CPALL, CBG, INTUCH, NETBAY, SCB และ SPRC!!
อินเด็กซ์51