ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 ส.ค.62 ปิดที่ 1,699.75 จุด ลบ 12.22 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 54,654.98 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,716.98 ล้านบาท
หุ้นไทยปรับลงตามหุ้นต่างประเทศหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในอนาคต ตามที่คาดหวัง!!
หุ้นมูลค่าการซื้อขายสูงสุด PTG ปิด 19.40 บาท ลบ 3.10 บาท, BBL ปิด 179 บาท ลบ 2.50 บาท, CPALL ปิด 86.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, EA ปิด 53.50 บาท บวก 1.25 บาท, KTC ปิด 46.50 บาท ลบ 1.25 บาท
บล.เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์ คาดตลาดหุ้นเดือน ส.ค.นี้ กระแสเงินทุน หรือ Fund Flow มีโอกาสชะลอตัว และต้องเผชิญกับหลายบททดสอบ เริ่มจากตลาดหุ้นผิดหวังกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ไม่ได้ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในอนาคตอย่างชัดเจน และสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ที่ยังยืดเยื้อ
ขณะที่มีอีกประเด็นที่สำคัญ คือ การปรับน้ำหนักดัชนี MSCI Emerging Market รอบใหม่ (Rebalance) ในเดือน ส.ค.นี้ โดยจะประกาศเช้าวันที่ 9 ส.ค.2562 และจะมีผลบังคับใช้ช่วงปลายเดือน ส.ค.62 แม้รอบนี้คาดว่าไม่มีการปรับหุ้นไทยเข้าออกจากดัชนี แต่สัดส่วนหรือน้ำหนักตลาดหุ้นไทยมีโอกาสลดลง จากการทยอยปรับเพิ่มหุ้นใหม่จากประเทศอื่นๆ คือ มีการปรับเพิ่มหุ้น 5% ของ China A-Share รวมถึงเพิ่ม 50% ของหุ้นประเทศซาอุดีอาระเบีย
โดยทั้ง 2 กรณีเป็นการเพิ่มหุ้นเข้ามาใหม่คิดเป็นสัดส่วน 2.2% ในดัชนี MSCI Emerging Market (มาจาก China A-Share 0.8%, ซาอุดีอาระเบีย 1.4%) สรุปคือ สัดส่วนหุ้นเข้าใหม่ในดัชนี MSCI Emerging Market ราว 2.2% หาก MSCI ไม่ได้ปรับลดตลาดหุ้นใดเป็นพิเศษ จะกดดันสัดส่วนตลาดหุ้นประเทศอื่นรวมถึงไทยให้ลดลง
ปิดท้ายมีข่าว “รัชดา ตั้งหะรัฐ” กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) มองเห็นโอกาสการลงทุนในธุรกิจจีน เปิดขายกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ออล ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (UCHINARMF) ซึ่งกระจายการลงทุนไปยังหุ้นของบริษัทจีนผ่านตลาดหุ้นจีนและตลาดฮ่องกง รวมทั้งหุ้นบริษัทจีนในตลาดอื่นๆทั่วโลกเหมาะกับนักลงทุนที่เห็นโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีระยะยาว
เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนวันที่ 1–9 ส.ค.นี้ ซึ่งกองทุนนี้เป็นกองเปิดที่ซื้อขายได้ทุกวันทำการ ได้รับเงินค่าขายคืน T+5 สนใจโทร.โลด 0–2786–2076–77.
อินเด็กซ์ 51