หุ้นไทยบวกแรงสวนทางหุ้นโลก!

รับโหวตนายกฯตู่-ตั้งรัฐบาล แถมเงินทุนฝรั่งยังไหลเข้าซื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 4 มิ.ย. ว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงสวนทางตลาดหุ้นโลก ตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ต่างปรับตัวลดลง หลังกังวลสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากเม็กซิโก ในอัตรา 5% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 10 มิ.ย.นี้ และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึง 25% ในเดือน ต.ค. ขณะที่ยังได้รับแรงกดดันจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่เพิ่มขึ้น หลังจีนระงับการซื้อถั่วเหลือง และอาจระงับการส่งออกแร่หายากไปยังสหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนกังวลถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงแดงเถือก ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยุโรป จีนและเอเชีย

ส่วนหุ้นไทยปรับตัวขึ้นบวกเขียวทั้งตลาด รับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี วันที่ 5 มิ.ย.นี้ และคาดหวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะเกิดขึ้นได้ ท่ามกลางแรงซื้อกลับของนักลงทุนต่างชาติ โดยดัชนีหุ้นไทยมาปิดที่ 1,637.69 จุด บวก 17.47 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 65,213.26 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 5,826.05 ล้านบาท ทั้งนี้ แม้หุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นได้ แต่ บล.เอเซียพลัสยังมองว่าความร้อนแรงของสงครามการค้าที่มีผลกระทบเป็นรูปธรรมมากขึ้น ได้ผลักดันให้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ทำให้ตลาดหุ้นขาดแรงหนุน

ฝ่ายวิจัย บล.ซีเอสจี ซีไอเอ็มบีระบุว่า ตลาดมีสัญญาณเชิงบวกเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล และเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้า จากการเก็งเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลและการโหวตตัวนายกรัฐมนตรี โดยกลุ่มที่ส่งสัญญาณบวกได้แรงคือ กลุ่มที่โตจากภายในอย่างค้าปลีก ท่องเที่ยว ปูนซิเมนต์ และสื่อสาร.