มุมมองทรีนีตี้!!

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

มุมมองทรีนีตี้!!

Date Time: 5 ก.พ. 2562 05:01 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 4 ก.พ.62 ปิดที่ 1,653.62 จุด เพิ่มขึ้น 2.22 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 31,741.94 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,412.76 ล้านบาท

Latest

โบรกเกอร์เตือนหุ้นไทยปี 68  เน้น “เก็งกำไร” เหตุราคาไม่ถูก จับตา 4 ปัจจัย กระทบการลงทุน


ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 4 ก.พ.62 ปิดที่ 1,653.62 จุด เพิ่มขึ้น 2.22 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 31,741.94 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,412.76 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 49.25 บาท ลบ 0.25 บาท, PTTGC ปิด 69.25 บาท ลบ 0.25 บาท, PTTEP ปิด 125.50 บาท บวก 1.50 บาท, KBANK ปิด 202 บาท บวก 1 บาท และ AOT ปิด 69.25 บาท ลบ 0.50 บาท

บล.ทรีนีตี้ ประเมิน SET Index เดือน ก.พ.62 แกว่งตัว Side ways ในกรอบแนวรับแรกที่ 1,600 จุด และแนวรับสำคัญที่ 1,570 จุด ส่วนแนวต้านสำคัญประเมินที่ 1,670 จุด แนะนำนักลงทุนระยะสั้นที่ขายทำกำไรไปแล้วรอการเข้าซื้อกลับตามกรอบแนวรับ ส่วนนักลงทุนระยะยาวสามารถแบ่งถือหุ้นขนาดใหญ่ปันผลสูงได้ เลือกกลุ่มธนาคาร โรงกลั่นและท่องเที่ยว เป็นกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน

โดย “ณัฐชาต เมฆมาสิน” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุปัจจัยบวกที่หนุนตลาดเดือนนี้ ประกอบด้วย 1.กระแสเงินทุนต่างชาติที่เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น ส่งผลให้เงินบาทปรับตัวแข็งค่ามากที่สุดในเอเชียนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และ 2.นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาฟื้นตัวแล้ว นำโดยชาติที่เป็นฐานนักท่องเที่ยวหลักทั้งหมด

ส่วนปัจจัยลบ ประกอบด้วย 1.ประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ยังคงถูกปรับลดลง จนส่งผลให้ Valuation ปรับตัวสูงขึ้นในมิติของ PE และ 2.ประเด็น Brexit ที่อาจมีความวุ่นวายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ขณะที่ปัจจัยที่เป็นได้ทั้งบวกและลบ ประกอบด้วย 1.การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่ง “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ และประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ของจีน จะเปิดโต๊ะเจรจากันในเดือนนี้ และ 2.ทิศทางตัวเลข PMI ภาคการผลิตของประเทศสำคัญ เช่น จีน ยูโรโซน และสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นตัวแปรกำหนดทิศทางตลาดหุ้นเกิดใหม่ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าได้

สำหรับหุ้นแนะนำลงประจำเดือนนี้ ตามธีมที่สำคัญดังนี้

กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ปันผลสูง ที่ราคายังคงปรับตัว Laggard ตลาดอยู่ และมี Valuation ถูก ได้แก่ กลุ่มธนาคาร เช่น BBL, KTB, TCAP และกลุ่มโรงกลั่น เช่น TOP, SPRC, PTTGC

และหุ้นกลุ่มที่มีพัฒนาการเชิงบวกทางตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งล่าสุดเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเติบโตสูงสุดในรอบ 6 เดือน มองตัวหุ้นที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ AOT, AAV, ERW, SPA, BEAUTY, DDD และ TKN!!

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ