ไตรมาสแรกราคาทองขยับขึ้น 2.5% หรือ 500 บาท แนะจับจังหวะซื้อ-ขายให้ดี

Investment

Gold

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ไตรมาสแรกราคาทองขยับขึ้น 2.5% หรือ 500 บาท แนะจับจังหวะซื้อ-ขายให้ดี

Date Time: 5 เม.ย. 2560 19:15 น.

Video

สหรัฐฯ เสี่ยงเบี้ยวหนี้ ? ผลประชุม FED จะมีเซอร์ไพรส์ ? | Thairath Money Night Stand EP.4

Summary

  • วายแอลจี เผยไตรมาสแรกปี 60 ราคาทองไทยขยับขึ้น 2.5% หรือประมาณ 500 บาท แนะไตรมาส 2 จับจังหวะซื้อ-ขายให้ดี แม้ดอกเบี้ยสหรัฐฯ อยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจยังคงมีอยู่

Latest


วายแอลจี เผยไตรมาสแรกปี 60 ราคาทองไทยขยับขึ้น 2.5% หรือประมาณ 500 บาท แนะไตรมาส 2 จับจังหวะซื้อ-ขายให้ดี แม้ดอกเบี้ยสหรัฐฯ อยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจยังคงมีอยู่

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 2 ประเด็นสำคัญที่จะเข้ามาชี้นำตลาดทองคำ ยังคงอยู่ที่การตอบรับของนักลงทุนต่อนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งหากเกิดการคาดการณ์ในเชิงบวกต่อนโยบาย อาจส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นและกดดันทองคำได้

อย่างไรก็ตาม หากนโยบายดังกล่าวก่อให้เกิดความขัดแย้งกับนานาประเทศ หรือส่งผลต่อการค้าโลก หรือประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องเผชิญอุปสรรคในการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลัง ซึ่งรวมถึงแผนการลดภาษีและการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันสินทรัพย์เสี่ยงและกลับมาหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้

นอกจากนี้ เราแนะนำติดตามการเลือกตั้งของฝรั่งเศสในเดือน เม.ย.และ พ.ค. หากพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดได้รับชัยชนะหรือได้คะแนนเสียงมากเกินคาด อาจบ่งชี้ถึงกระแสต่อต้านกลุ่มฐานอำนาจเดิมในอียู ซึ่งสั่นคลอนอนาคตของอียู ขณะที่สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดๆ ไปของเฟดก็ยังคงเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญ อีกทั้งความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั้งประเด็นเกาหลีเหนือและการก่อการร้ายถือเป็นจุดสนใจที่ต้องติดตามเช่นกัน


นางสาวฐิภา กล่าวอีกว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนนั้น เรามองว่าแม้ดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะเริ่มอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ปัจจัยความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจทั่วโลกเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ โดยแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาใกล้บริเวณแนวรับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 19,600 บาทต่อบาททองคำ และรอไปขายทำกำไร เมื่อราคาดีดตัวขึ้น แต่ไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 20,800 บาทต่อบาททองคำ

ทั้งนี้ หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ แนะนำรอขายบริเวณแนวต้านสำคัญถัดไปในโซน 1,286-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 21,000-21,200 บาทต่อบาททองคำ โดยนักลงทุนควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุนและปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด (ราคาไทยคำนวณจากค่าเงินบาท ณ ระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์)

“ทองคำยังคงเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่น่าลงทุน โดยก่อนที่นักลงทุนจะลงทุนในสินทรัพย์ใดก็ตามก็ควรจะต้องมีการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด พร้อมทั้งประเมินความเสี่ยงที่ตนเองรับได้ และจัดสรรเงินทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและเงินทุนของตนเอง”

สำหรับภาพรวมของราคาทองคำตลาดต่างประเทศในไตรมาสแรกปี 2560 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 96.98 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 8.4% ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 1 ปี โดยราคาปิดตลาด ณ วันที่ 31 มี.ค. 60 ที่ 1,248.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนราคาทองคำในประเทศนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 500 บาทต่อบาททองคำ หรือ ประมาณ 2.5% เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินบาทหลังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นได้น้อยกว่าการปรับขึ้นของราคาทองคำต่างประเทศ.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ