
หลังจากเมื่อวานนี้ (18 ก.ย. 68) ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงที่ 0.25% ตลาดทองคำก็เกิดปรากฏการณ์ Sell on Fact ที่นักลงทุนเทขายหลังเฟดลดดอกเบี้ย ต่อเนื่องถึงเช้าวันนี้ (18 ก.ย. 68) ที่เห็นราคาทองคำขายออกอยู่ที่ 55,000 บาทต่อบาททองคำ ลดลง 200 บาทจากการปิดตลาดเมื่อเย็นวาน
ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำตอบรับทางลบจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเกิดแรงซื้อเก็งกำไรต่อเนื่องจนทำ All-time High 3,707 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หลังการประชุมเฟดมีแรงเทขายอย่างหนักลงไปต่ำสุดที่ 3,646 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 60 ดอลลาร์สหรัฐ เกิดลักษณะ Sell on Fact ที่ตลาดผิดหวังว่าเฟดไม่เร่งลดดอกเบี้ยในปีหน้า
ทั้งนี้ จากผลการประชุมเฟด เมื่อวันที่ 16-17 ก.ย. 2568 มีมติ 11 ต่อ 1 เสียง ลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% มาที่ระดับ 4.00 - 4.25% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการลดครั้งแรกตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว
การประชุมในครั้งนี้มีสีสันทางการเมืองใหม่ๆ เมื่อสตีเฟน มิแรน ผู้ว่าการเฟดคนใหม่เข้าร่วมประชุมครั้งแรกหลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันอังคาร ซึ่งมิแรนโหวตไม่เห็นด้วยกับการลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% แต่เป็นอีก 1 เสียงที่เห็นต่างเพราะต้องการให้ลดอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 0.50%
ขณะที่ การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด (Dot Plot) ปีนี้เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% หรือ 2 ครั้ง ส่วนปี 2569-2570 จะลดอัตราดอกเบี้ยเพียงปีละ 0.25% หรือปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ไม่เปลี่ยนแปลงจากประมาณการในเดือนมิถุนายน 2568 สะท้อนให้เห็นว่าเฟดมีการเร่งลดดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ชะลอการลดดอกเบี้ยในปีถัดไป
ขณะที่หลายฝ่ายต่างติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการลดโดยมีจุดประสงค์ด้านการจัดการกับความเสี่ยง ไม่ใช่เพื่อส่งสัญญาณแนวทางลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยมีเหตุผลหลักมาจากความเสี่ยงของตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนตัว พาวเวลล์เตือนว่าแม้ Dot Plot จะประมาณการว่าจะลดดอกเบี้ยอีกหลายครั้ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นแนวทางที่ถูกยึดไว้แน่นอน ทุกการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้ามา และการประเมินความเสี่ยงในแต่ละช่วงเวลา (meeting-by-meeting situation)
ทั้งนี้ คำแนะนำการลงทุนระยะสั้น มองว่าหลังเฟดประกาศลดดอกเบี้ย ตลาดเริ่มคลายความกังวล ทำให้ราคาทองคำอาจเผชิญแรงขายทำกำไรในระยะสั้น นักลงทุนทองคำแท่งสามารถขายปิดทำกำไรบางส่วนเมื่อราคาปรับตัวขึ้น และทยอยกลับเข้าซื้อสะสมเมื่อราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 3,635 / 3,600 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราคาทองคำแท่งบาทละ 54,950 / 54,600 บาทต่อบาททองคำ
สำหรับนักลงทุนระยะยาวแนะนำถือต่อไปได้ (Let Profit Run) เนื่องจากยังคาดว่าราคาทองคำเป็นขาขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนจาก De-Dollarization ทำให้มีแรงซื้อทองคำจากธนาคารกลาง รวมทั้งความเชื่อมั่นเงินดอลลาร์ลดลง เนื่องจากปัญหาหนี้สาธารณะสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้น การขาดวินัยทางการคลัง การแทรกแซงองค์กรอิสระ ความน่าเชื่อถือของข้อมูลสถิติสหรัฐลดลง
อ่านข่าวหุ้น ข่าวทองคำ และ ข่าวการลงทุน และ การเงิน กับ Thairath Money ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney