
ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยว่า วันนี้ราคาทองในประเทศปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-time high) โดยราคาทองแท่งขายออกของสมาคมค้าทองคำปรับขึ้นแตะ 46,600 บาท ซึ่งราคาทองแท่งปรับเปลี่ยนถึง 13 ครั้ง ในช่วงระหว่างวัน
เนื่องจากราคาทองตลาดโลก (Spot) ปรับขึ้นต่อเนื่องและทำ All-time high แตะ 2,906 ดอลลาร์และเงินบาทอ่อนค่าลงเข้าใกล้ 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 33.94 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาทองทำ All-time high ในวันนี้ ประกอบด้วย
1) นโยบายทางด้านภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ที่ประกาศระลอกใหม่ โดยจะจัดเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมทั้งหมด 25% ทุกประเทศ แม้ยังไม่ได้มีการระบุว่าจะเริ่มบังคับใช้เมื่อใด แต่นับเป็นการยกระดับนโยบายครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของทรัมป์
2) ธนาคารกลางจีนได้เข้าซื้อทองคำเพิ่มอีกประมาณ 5 ตัน ในเดือน ม.ค. 2568 ซึ่งเป็นการเข้าซื้อทองคำติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2567 ถึงแม้ว่าราคาทองคำปรับขึ้นอยู่ในระดับที่สูง สะท้อนถึงนโยบาย De-Dollarization หรือการลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐฯ ของจีนที่คาดยังทำต่อเนื่อง และเป็น Sentiment ทางบวกต่อตลาดทองคำ
3) ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ซื้อทองคำเกิน 1,000 ตันติดต่อกันปีที่ 3 โดยเมื่อปี 2567 ธนาคารกลางยังคงเดินหน้าเข้าซื้อทองคำแท่ง 1,044.6 ตัน จากปี 2566 และปี 2565 ที่เข้าซื้อ 1,050.8 ตัน และ 1,080.01 ตัน ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) และสามารถป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่ความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจโลกจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ และความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายวัน เวลา 16.59 น. เป็นการปรับตัวครั้งสุดท้ายของวัน ราคาทองคำแท่ง รับซื้อที่บาทละ 46,500 บาท และขายออกบาทละ 46,600 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 45,661.92 บาท และขายออกบาทละ 47,100 บาท โดยราคาทองตลาดโลก (Spot) อยู่ที่ 2,903.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ โดยราคาทองวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเช้าถึงเย็นจำนวน 13 ครั้ง ประมาณ 600 บาท สำหรับทองคำแท่ง และทองรูปพรรณปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 600 บาทเช่นกัน
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney